ทั้งนี้เตรียมจัดโปรโมชั่นช่วงไฮซีซั่น พบห้องราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 3.09 ล้านบาท พร้อมเข้าอยู่ได้เลย พร้อม “มาตรการ เดอะ กู๊ด ไลฟ์" สนับสนุนมาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้าโครงการ เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการโอนคืนให้ลูกค้าทันที ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 เมษายน 2559 พร้อมรับ Siam Paragon Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 70,000 บาท รวมถึงสามารถนำวงเงิน 20% จากการซื้อโครงการไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เป็นเวลา 5 ปี ตอบรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐอีกด้วย
ทั้งนี้ เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ นับเป็นอีกหนึ่งโครงการในบิ๊กโปรเจ็คต์ที่เขาใหญ่ของแสนสิริ ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้ชื่อ “23 องศา เอสเตท" ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม วิลล่า และโรงแรม ทั้งหมดจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท ได้แก่ 23 องศา คอนโด, 23 องศา วิลล่า,เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่และเอสเคป เขาใหญ่, แสนสิริ โฮเทล คอลเลคชั่น ซึ่ง 23 องศา คอนโด และ 23 องศา วิลล่า ปิดการขายและส่งมอบที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าแล้วทั้งหมด 100% โดยที่มาความสำเร็จนอกจากทำเลและการดีไซน์แล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจากบริการพิเศษที่มอบให้ลูกค้าของแสนสิริโดยเฉพาะ คือ บริการ Plus Concierge (พลัส คอนเซียร์จ) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อนได้อย่างครบวงจร โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่สำคัญในการช่วยดึงดูดให้ลูกค้าสนใจซื้อโครงการและกระตุ้นการปิดการขายได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทยังได้เปิดตัวโปรแกรม “EARN FROM THE HOLIDAYS" ชีวิตพักผ่อนที่มากขึ้น กับผลตอบแทนที่มั่นคง ภายใต้ Rental Guarantee Programme โดยซื้อคอนโดมิเนียมเพียง 1 โครงการ แต่สามารถเข้าพักอาศัยได้มากถึง 15 โครงการใน 5 เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน เขาใหญ่ และพัทยา ระยะเวลาเข้าพักได้นานสูงสูดถึง 60 วัน รวมถึงยังรับประกันผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 6 – 7% เพื่อเป็นการมอบโอกาสให้ลูกค้าได้พักผ่อนในวันหยุดได้ง่ายขึ้นทั่วประเทศไทย โดยไม่จำกัดว่าจะต้องพักในโครงการที่ตนเองซื้อเท่านั้น นับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่จัดโปรแกรมพิเศษในรูปแบบนี้ ทั้งนี้ โปรแกรมได้ออกแบบให้ลูกค้าสามารถเข้ารับโปรแกรมได้ง่ายๆ โดยมอบความสะดวกสบายในการจองห้องพักมากขึ้น เพียงแค่เข้าไปจองห้องพักที่ my room booking ในเว็บไซต์ของแสนสิริ www.sansiri.com/myroombooking ภายในระยะเวลา 30 วันก่อนเข้าพัก ซึ่งเลือกเข้าพักในโครงการของแสนสิริได้ถึง 15 โครงการ ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยวดัง อาทิ เชียงใหม่ - ดีคอนโด ซายน์, หัวหิน - บ้านแสนงาม, เรน ชะอำ-หัวหิน, ออทัมน์, เขาใหญ่ - เดอะ วัลลีย์, พัทยา – บ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์, ภูเก็ต –เดอะ เบส ไฮท์ – ภูเก็ต , เดอะ เบส อัพทาวน์ – ภูเก็ต, บ้านไม้ขาว, เดอะ เดค ป่าตอง
สำหรับโรงแรม ‘เอสเคป เขาใหญ่, แสนสิริ โฮเทล คอลเลคชัน’ ในช่วงไฮซีซั่นก็มียอดจองเข้าห้องพักคึกคัก ตั้งเป้าอัตราเข้าพักสูงขึ้นกว่า 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวต่างชาติซึ่งในปีนี้แสนสิริได้รุกทำการตลาดมากขึ้น จึงส่งผลให้ปีนี้มียอดจองห้องพักชาวต่างชาติสูงเพิ่มขึ้นถึง 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวสหรัฐอเมริกาและชาวยุโรป และนอกเหนือจากห้องพักแล้ว ที่โรงแรม ‘เอสเคป เขาใหญ่ ยังมีห้องสัมมนาที่จุได้ถึง 100 คน สำหรับจัดกิจกรรมและสังสรรค์ โดยมีพื้นที่รองรับทั้งในห้องประชุมและกลางแจ้ง ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงสิงหาคมปีนี้ มียอดกลุ่มลูกค้าเข้าจองเพื่อสัมมนาเฉลี่ย 10 กลุ่มคนต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 28% ของรายได้โรงแรม เอสเคป เขาใหญ่
"ตลาดเขาใหญ่มีสัญญาณการเติบโตที่ดี เนื่องจากช่วงฤดูหนาว นับเป็นช่วงไฮซีซันที่พีคที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวในเขาใหญ่ ส่งผลให้ผลตอบรับคอนโดมิเนียมตากอากาศ “เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่" ได้รับผลตอบรับที่ดีไปด้วย ขณะที่โรงแรม ‘เอสเคป เขาใหญ่’ ก็มียอดจองที่ดีมากเช่นกัน เห็นได้จากยอดจองในงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 36 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์สิริกิติ์เมื่อ 3-6 กันยายนที่ผ่านมา มียอดสูงถึง 1.8 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของรายได้รวม 2.5 ล้านบาท ของทั้งสองโรงแรมในเครือ แสนสิริ โฮเทล คอลเลคชันที่หัวหินและเขาใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้นปีนี้สำหรับเฉพาะในส่วนของเอสเคป เขาใหญ่ในช่วงไฮซีซั่น (เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2558) แสนสิริตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขายช่วงไฮซีซั่นอยู่ที่ 13 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเฉพาะส่วนของเอสเคป เขาใหญ่ไว้ที่ 44 ล้านบาท ซึ่งจากยอดจองเข้าห้องพักที่ได้รับการตอบรับดีที่ดีตั้งแต่ต้นปีจึงคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน"นายอุทัย กล่าว