ทั้งนี้ ประเมินว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบจะเป็นไปอย่างจำกัด แม้ว่ากลุ่มโอเปกจะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับสูงกว่า 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบได้มากสุดได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก เนื่องจากมีการพึ่งพาการส่งออกน้ำมันดิบในระดับสูง ทำให้ประเมินว่าการคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับสูงในอนาคตจะเป็นไปได้จำกัด ส่วนประเด็นสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่หากดูด้านการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ พบว่ามีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 รวมถึงจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ยังปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2010 สะท้อนว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง
"เราจึงมองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงต่ำกว่าระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลนั้นได้สะท้อนปัจจัยความกังวลด้านอุปทานที่ล้นตลาดเหล่านี้ไปแล้ว จึงเป็นโอกาสเหมาะในการทยอยสะสมพอร์ตน้ำมัน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีเมื่อราคาน้ำมันรีบาวน์ โดยเราประเมินราคาน้ำมันดิบปีหน้าไว้ที่ประมาณ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งยังมีอัพไซด์อีกมาก"นายสาห์รัช กล่าว
นายสาห์รัช กล่าวว่า กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #9 จะเน้นลงทุนในกองทุนน้ำมัน United States Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบคุณภาพดี (WTI Light Sweet Crude Oil) ในตลาดไนเม็กซ์ (NYMEX) ในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายในระยะเวลา 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทนว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายเมื่อเลิกกองทุน และมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ