อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทย ซึ่งตลาดฯกำลังจับตามองในเรื่องเศรษฐกิจในประเทศอยู่ โดยในวันนี้กระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขส่งออกในเดือนต.ค.ขณะที่ตลาดฯก็ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และหากดัชนีฯปรับตัวลงแรงก็จะมีแรงรับจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF),กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) อีกทั้งช่วงนี้จะเห็นว่าได้นักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาซื้อบ้างเล็กน้อย ดังนั้นภาพรวมตลาดฯน่าจะเป็นลักษณะแกว่งแคบ
พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
-ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(23 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,792.68 จุด ลดลง 31.13 จุด(-0.17%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,102.48 จุด ลดลง 2.44 จุด(-0.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,086.59 จุด ลดลง 2.58 จุด(-0.12%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 3.82 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 7.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 72.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 13.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.78 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.78 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(23 พ.ย.58)1,394.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด(+0.03%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 840.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(23 พ.ย.58) ปิดที่ 41.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(23 พ.ย.58)ที่ 9.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.86/88 แนวโน้มอ่อนค่าระยะสั้นจากแรงซื้อดอลล์ช่วงปลายเดือน
- นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้ตั้งงบประมาณปี 2559-2560 เพื่อศึกษาโครงการเอกชนร่วมลงทุนภาครัฐ (พีพีพี) โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 2 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางจากนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 120 กม. วงเงิน 8.06 หมื่นล้านบาท และ 2.เส้นทางหาดใหญ่-ชายแดนไทย มาเลเซีย ระยะทาง 55-60 กม. วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท รวมเงินลงทุนทั้งสิ้น 110,600 ล้านบาท
- "สมชัย สัจจพงษ์"ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปภาษี เผยในวันนี้จะมีการประชุมร่วมกับกรมสรรพากร พิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามแผนการปฏิรูปภาษีเพื่อลดภาระการเสียภาษีของผู้มีเงินได้ให้ลดลง ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ได้ข้อสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน และต้องมีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุด
- แบงก์ชาติเผยภาคธุรกิจได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินลดลง 1.34 แสนล้านบาทในไตรมาส 3 ของปีนี้ เฉพาะธุรกิจการเงินและประกันภัยที่ขอกู้ไปปล่อยต่อยอดกู้หดถึง 2 แสนล้านบาท แต่ภาพรวมหลายธุรกิจยังคงได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 5.62 หมื่นล้านบาทเกิดจากธุรกิจจัดหาที่อยู่อาศัยเป็นหลัก
- กสทช.ประกาศเอาจริง สั่งดาวเทียม-เคเบิลทีวีเรียงช่องทีวีดิจิตอลเลข 1-36 ตามประกาศบังคับใช้ตั้งแต่ 2 ธันวาคมนี้ ลดความสับสนประชาชน ด้านผู้ประกอบการ 70% ส่วนใหญ่ระดับท้องถิ่นยันไม่พร้อม รอลุ้นมติศาลปกครอง
- สภาพัฒน์ เผยไตรมาส 3/58 จ้างงานภาคเกษตรลดลง หนี้ครัวเรือนยังพุ่ง ผิดนัดชำระบัตรเครดิตเพิ่ม ส่วนโรคไข้เลือดออกที่ระบาดเพิ่มขึ้นกว่า 3.7 เท่า เทียบเท่ากับช่วงเดียวกันปี 57 พร้อมจับตาวัยรุ่นติดเหล้าเพิ่ม ยอดขายแอลกอฮอล์สูงถึง 28,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.03%
*หุ้นเด่นวันนี้
- ERW(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 4.90 บาท เป็นหุ้นที่ยัง Laggard ในกลุ่มโรงแรม แนวโน้มธุรกิจฟื้นตัวดีมาก หากในอนาคต ERW ขายสินทรัพย์เพิ่มเข้าไปใน REIT ก็จะเป็นแรงกระตุ้น (Catalyst) ราคาหุ้นได้อีก พร้อมคาดการณ์กำไร 4Q58 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เมื่อเข้าสู่ High Season เทียบกับ 3Q58 (q-o-q) ที่เป็น -20 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบจากการลอบวางระเบิดที่แยกเอราวัณ และสูงกว่าเทียบกับ y-o-y ที่เป็นกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท ทำให้ทั้งปี 58 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 193 ล้านบาท เทียบกับปี 57 ที่เป็นขาดทุนสุทธิ 112 ล้านบาท ส่วนปี 59 คาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นได้อีก 55% เป็น 300 ล้านบาท
- MALEE(ไอร่า)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 41 บาท จากแนวโน้มการขยายตัวของยอดส่งออกในช่วง 3 ปีข้างหน้า ความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมน้ำผลไม้พร้อมดื่ม Premium UHT และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่โดดเด่นเฉลี่ย 4-5% รวมทั้งยังมีอัพไซด์จากประเด็นขยายตลาดในฟิลิปปินส์
- S(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 10.35 บาท จากการที่ S มีศักยภาพสูงในการรับรู้รายได้ในอนาคต ถึงแม้ว่าในปี 2558 คาดจะยังขาดทุนสุทธิอยู่ 180.78 ล้านบาท โดย ณ สิ้น 3Q58 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1.42 พันล้านบาท และยังคงขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 185.34 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ได้รับรู้และประกอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการรวมบริษัทกับทาง Nirvana ของโรงแรม Phi Phi ทำให้ S มี SG&A ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดีคาด S จะเริ่มส่งสัญญาณกลับตัวจากขาดทุนเป็นกำไรในปี 2559 ที่ประมาณ 930 ล้านบาท จากส่วนแบ่ง Equity sharing income ทั้งนี้ทาง S มีแผนการลงทุนที่ Aggressive โดยมีเป้าหมาย CAPEX 5 ปีต่อจากนี้ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี และยังเน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย โดยที่ในปี 2559 คาดว่าจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ โดยคาดว่า S จะมีโรงแรม 65 แห่งให้บริการภายในปี 2562 และมีเป้าหมายรายได้รวมที่ 2 หมื่นล้านบาทต่อปีตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป