"SUPER ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ และถือเป็นการร่วมลงทุนครั้งสำคัญของทั้ง 2 บริษัท ที่จะสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพในอนาคตร่วมกัน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะผลักดันให้ธุรกิจพลังงานทดแทนได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดย GUNKUL ยังได้รับความไว้วางใจจาก SUPER ให้เป็นผู้ให้บริการด้านควบคุมและดูแลบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าฯ ดังกล่าวด้วย ส่งผลให้ GUNKUL มีจำนวนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้ให้บริการด้านการควบคุมและดูแลบำรุงรักษากว่า 170 เมกะวัตต์ ซึ่งตอกย้ำให้บริษัทมีความเป็นผู้นำในการให้บริการอย่างครบวงจรด้านโรงไฟฟ้าฯ ยิ่งขึ้น และยังทำให้ GUNKUL สามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการถือหุ้นไม่น้อยกว่า 460 ล้านบาทต่อปีตลอดอายุโครงการ 25 ปี"นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว GUNKUL จะมีสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด จำนวน 67% และ SUPER ถือหุ้นในสัดส่วน 33% ขณะที่โครงการดังกล่าวได้ลงนามสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)เป็นระยะเวลา 25 ปี ราคารับซื้อไฟฟ้า 5.66 บาท/หน่วย ในระบบ FIT โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะทยอยดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย.นี้ และจะจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมดภายในเดือนธ.ค.นี้
ขณะที่บริษัทยังคงมีเป้าหมายสำคัญในการมีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์ภายในปี 59 จากปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมแล้วประมาณ 360 เมกะวัตต์
ด้านนายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ ของ SUPER กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง SUPER และ GUNKUL เพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้ว่า มีการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งถือเป็นดีลที่ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ทางธุรกิจ โดยผู้ถือหุ้นของทั้งสองฝ่ายต่างได้อนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุน โดยทาง SUPER เล็งเห็นว่า GUNKUL เป็นมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้น