สำหรับตลาดในประเทศยังคงชะลอตัว แต่บริษัทยังเดินหน้าทำตลาดแนะนำผลิตภัณฑ์กับลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่กลุ่มโครงการก่อสร้างต่างๆของภาครัฐจากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่เพียง 20% ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 50% ซึ่งจากนโยบายของภาครัฐบาลที่จะออกมาสนับสนุนการเดินหน้าโครงการก่อสร้างต่างๆ คาดว่าจะสามารถส่งผลให้บริษัทฯ มีโอกาสในการเข้ารับงานเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ปัจจุบันกำลังการผลิตของบริษัทอยู่ที่ 4.5 ล้านตารางเมตร(ล้านตร.ม.) ต่อปี ปัจจุบันใช้กำลังการผลิตประมาณ 80% หรือประมาณ 3.6 ล้านตรม.ต่อปี ซึ่งหากภาวะการชะลอตัวของตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น และบริษัทดำเนินธุรกิจได้สำเร็จตามที่วางไว้ บริษัทก็มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 6 ล้านตรม.ต่อปี
ส่วนแผนการดำเนินการในปี 59 บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ประเภท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 1/59 และจะเร่งบุกตลาดโครงการภาครัฐ ซึ่งจะมีการลงทุนในโครงการต่างๆ เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วขนาดรางกว้าง 1.435 เมตร และ โครงการขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ อีกหลายเส้นทาง ตั้งแต่ต้นปี 59 คาดว่าจะสามารถปรับสัดส่วนงานภาครัฐ 50% และภาคเอกชน 50% อีกทั้งบริษัทได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท เวอร์ฮาน เรียบร้อยแล้วและคาดว่าจะลงทุนภายในไตรมาสที่ 1/59 หากภาวะตลาดรองรับ ซึ่งต้องใช้งบลงทุนครั้งนี้ ประมาณ 200 ล้านบาท
“ในปี 59 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตมากกว่าปี 58 ประมาณ 10% หรือไม่ต่ำกว่า 420ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการขยายตลาดไปยังตลาด CLMV และ นโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมภาคอสังหาริมทรัพย์ และ ลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งจะกระตุ้นภาคเอกชนในการลงทุน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดให้ดีขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ผลิต จำหน่ายวัสดุก่อสร้างโดยรวมและบริษัทผู้รับเหมา ส่วนเป้าหมายรายได้ปี 58 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 380 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 5 %"นายรังสี กล่าว