ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น งานโครงการ 60% เทรดดิ้ง 30% Service 10% ขณะที่โครงการร่วมทุน จะรับรู้เป็นกำไรกับปันผล โดยจะเริ่มเห็นภาพรายได้จากพลังงานและพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
ขณะที่ปี 59 คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 15% โดยในปีหน้าบริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐ ที่เป็นประเภท High Potential เช่น งานหัวรถจักร รถไฟฟ้า และเทเลคอม มูลค่าประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท คาดหวังจะชนะประมูล 80% ซึ่งจะส่งผลต่องานในมือ (Backlog) ที่จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงจะรับรู้รายได้จากต่างประเทศที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯคาดรายได้จะอยู่ที่ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมืออยู่ที่ 9,000 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ 3,000 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป โดยยอมรับว่าปีนี้ได้รับผลกระทบจากงานภาครัฐที่มีการชะลอออกไป เช่น งานไอที งานโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ส่งผลทำให้การรับรู้รายได้ในปีนี้อาจจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างรอการคัดเลือกจากกรุงเทพมหานคร(กทม.)เพื่อเข้ารับงานกำจัดขยะในโรงงานอุตสาหกรรม โดยคาดว่ากทม.จะสรุปได้ในเดือนธ.ค.58 และบริษัทฯน่าจะมีโอกาสได้รับงานถึง 90% ซึ่งหากได้รับงานดังกล่าว เชื่อว่าจะดำเนินการได้ทันที ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษาหาพื้นที่ที่เหมาะสม โดยอาจจะมีความล่าช้ากว่าโรงไฟฟ้าขยะ ขณะที่โครงการโซล่าร์ฟาร์ม ขนาด 8 เมกะวัตต์ สามารถรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว