ทั้งนี้ BRR ยังได้ประเมินผลผลิตเข้าหีบในรอบฤดูการผลิตปีนี้ คาดว่าจะสามารถผลิตน้ำตาลทรายได้ 2.7 แสนตันหรือคิดเป็นผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อย (ยิลด์) เฉลี่ยอยู่ที่ 120 กิโลกรัม ซึ่งเชื่อว่าจะยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย พร้อมรองรับตลาดน้ำตาลทรายโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอันเนื่องมาจากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นขณะที่ประเทศผู้ผลิตสำคัญหลายๆ ประเทศ มีผลผลิตลดลงจากผลกระทบของปรากฏการณ์ เอลนิโน
ประธานกรรมการบริหาร BRR กล่าวว่า ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายถูกนำไปช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบให้แก่โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลทั้ง 2 แห่งที่มีกำลังการผลิตรวม 19.8 เมกะวัตต์ ให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ตลอดทั้งปี และมีปริมาณเพียงพอต่อการป้อนโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้าสู่ระบบได้ภายในปี 2559
สำหรับแผนลงทุนในระยะยาว BRR จะเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนนำโมลาสซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสู่ธุรกิจเอทานอล ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโรงงานเอทานอล คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานได้ในปี 2559 และแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี โดยมีกำลังการผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน ทั้งนี้ จึงมั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจของกลุ่ม BRR ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้ายังมีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป