"หลังจากที่เรามีการปรับกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงการปรับงานก่อสร้างโครงการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้งานก่อสร้างเสร็จได้อย่างรวดเร็วกว่าเมื่อก่อน ทำให้เรารับรู้รายได้เข้ามาได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เรามีการเติบโตมากขึ้นในแต่ละปีนับจากปีนี้"นายวิศิษฐ์ กล่าว
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า การเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัททำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในปี 58 และปี 59 ที่บริษัทคาดว่ากำไรยังทำนิวไฮใหม่ หลังในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ทำกำไรสุทธิได้แล้ว 198.79 สูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปี 57 ที่ 41.27 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีรายได้พิเศษเข้ามาจากการขายที่ดินย่านเกษตร-นวมินทร์ 50 ไร่ มูลค่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งได้มีการบันทึกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และยังมีที่ดินเหลืออีก 20 ไร่บนทำเลดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังไม่มีแผนการขายออกไป
ขณะที่ปัจจุบันมีมูลค่าโครงการคอนมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอน (สต๊อก) มูลค่า 4.8 พันล้านบาท โดยเป็นโครงการคอนมิเนียมที่อ่อนนุช, บางนา และอโศก-ดินแดง โดยจะมีการทยอยโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้ 80 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนในปี 59 และส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของโครงการคอนโดมิเนียมในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 30-40% จากปีนี้ 20% ส่วนสัดส่วนรายได้โครงการแนวราบจะอยู่ที่ 70% ในปี 59 จากปีนี้ที่ 80% อีกทั้งบริษัทยังมีสต๊อกของโครงการแนวราบอีกราว 1 หมื่นล้านบาท
ด้านแผนการลงทุนในปีหน้าเบื้องต้นบริษัทวางแผนการเริ่มก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหรูและโรงแรม มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท บนทำเล AUA ราชดำริ ซึ่งที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ให้เช่า พื้นที่ 5 ไร่ ขนาด 82,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นอาคารสำนักงานของ AUA 7,500 ตารางเมตร และอาคารคอนโดมิเนียมและโรงแรมรวมกว่า 50,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 62 และบริษัทจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท 53 มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาทในปีหน้าเพิ่มอีกด้วย โดยจะเปิดตัวไนไตรมาส 2/59 พร้อมกับตั้งงบซื้อที่ดินในปีหน้ามากกว่า 2 พันล้านบาทเพื่อไว้ใช้ซื้อที่ดินในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยบริษัทยังคงเน้นการซื้อที่ดินเพื่อไว้ใช้พัฒนาโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ในอนาคต
นอกจากนี้ในปี 59 บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่ารวมราว 2 พันล้านบาท อายุ 2-3 ปี โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ชุด โดยจะออกในช่วงต้นปี กลางปี และปลายปี เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 59 มองว่าจะดีขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากไม่มีซัพพลายใหม่ๆในตลาดเข้ามาเพิ่มมากเพราะไม่มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่เข้ามาเล่นในตลาด และส่งผลให้การแข่งขันมีความรุนแรงลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศในปีหน้าคาดว่าจะดีขึ้นจากปีนี้ ส่งผลต่อความมั่นใจของประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดภาวะการชะลอตัวของการตัดสินใจซื้อ ขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐนั้นจะช่วยให้เกิดการเปิดพื้นที่ใหม่ ที่ช่วยเปิดโอกาสทำเลใหม่ให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตาในปีหน้า คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน และความปลอดภัยในชีวิตของคนในโลก หลังจากมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นในต่างประเทศ