"ปีหน้ามองตลาดอสังหาฯจะกระเตื้องขึ้นจากปีนี้ โดยเฉพาะตั้งแต่มาตรการรัฐออกมาเห็นการฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ และคาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงปีหน้าด้วย และแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าก็น่าจะดีขึ้น มอง GDP โต 3% ซึ่งตลาดอสังหาฯก็โตตามเศรษฐกิจไทย และถ้าภาพรวมเศรษฐกิจดีก็จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น การตัดสินใจซื้อ และกำลังซื้อด้วย แต่สิ่งที่กังวลในปีหน้ายังคงเป็นเรื่องการกู้แบงก์ที่ปัจจุบันยังมีความเข้มงวดอยู่มาก แต่เราก็มีการทำ Pre approve กับการปรับอัตราเงินดาวน์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่ปรับเงินดาวน์เพิ่มเป็น 15% จากเดิม 10%"นางสุวรรณา กล่าว
นางสุวรรณา กล่าวว่า ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นในปี 59 บริษัทคาดว่าจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 32% จากปีนี้ที่จะลดลงมาอยู่ที่ 31% เนื่องจากในปีหน้าบริษัทมีสต๊อกที่จะระบายออกลดลงอย่างมาก ประกอบกับการออกแคมเปญกระตุ้นจะไม่มากเท่ากับปีนี้ หากแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น และส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลงในปีหน้า
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 59 บริษัทวางแผนเปิดโครงการประมาณ 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการใหม่บนที่ดินที่พร้อมพัฒนาในปีหน้า 20 โครงการ มูลค่า 2.2-2.3 หมื่นล้านบาท โครงการใหม่ที่เลื่อนมาเปิดในปีหน้า 5 โครงการ มูลค่า 4 พันล้านบาท พร้อมกับตั้งงบซื้อที่ดินในปีหน้าราว 4-5 พันล้านบาท ไว้ใช้ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะมากกว่าไตรมาส 3/58 ที่มีรายได้อยู่ที่ 4.64 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 569.91 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 4/58 มีการโอนโครงการต่างๆมากที่สุดของปีนี้ ประกอบกับมีการโอนคอนโดมิเนียมคิว อโศก ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ ซึ่งจะมีการโอนราว 2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/58 ส่งผลให้ในไตรมาส 4/58 จะมีการโอนราว 4-5 พันล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอนทั้งหมด (Backlog) ในปัจุบันที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนในปี 59 ราว 3 พันล้านบาท และปี 60 อีก 3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 ยังส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 14.84% โดย 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัททีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.10%