โดยแต่งตั้ง บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัทฯ ซึ่งการเข้าซื้อ อาม่า มารีนฯ ในครั้งนี้ บริษัทฯเล็งเห็นว่าจะเป็นการช่วยลดภาระการบริหารงานด้านการขนส่งของบริษัท เนื่องจากสามารถว่าจ้างให้ อาม่า มารีน ขนส่งน้ำมันให้บางส่วน โดยที่บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มศักยภาพในด้านโลจิสติกส์ให้กับบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ภายในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ และขยายธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะทยอยออกและเสนอขายหุ้นกู้ตามความจำเป็นในการใช้เงินของบริษัท เพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการเงินกับบริษัท โดยอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะที่ออก
"บริษัทฯ มียอดสะสมการจำหน่ายน้ำมันของ 9 เดือนที่ผ่านมา มากกว่าเป้าที่วางไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ 20% และบริษัทฯ จะรักษาอัตราการเพิ่มขึ้นให้เพิ่มมากขึ้น หากราคาน้ำมันจะยังคงใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลทำให้รายได้จากการขาย และบริการ เติบโตน้อยกว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้า EBITDA ที่ 30-40% ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ ปรับตัวสูงขึ้น"นายพิทักษ์ กล่าว
บริษัทฯคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้น้ำมันในไตรมาส 4 จะกลับมาสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยว รวมถึงนโยบาย สนับสนุนการเกษตร และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ประกอบกับราคาน้ำมันปรับลงมามาก ทำให้มีแนวโน้มในการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น บริษัทฯยังคงเป้าการเติบโตตามที่คาดไว้เมื่อต้นปี และยังคงเป้าหมายในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพลังงานตามแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงยังคงมุ่งขยายสถานีบริการ อย่างต่อเนื่อง ทั้งถนนสายรอง และถนนสายหลัก เพื่อสามารถรองรับการให้บริการได้อย่างเต็มที่