สำหรับในปี 59 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว 10-15% และกำไรสุทธิก็จะเติบโตไปตามรายได้ จากคาดจำนวนผู้โดยสารปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคน และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร 70% โดยในปีหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มเส้นทางบินใหม่อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย เส้นทางบินจากสมุย-กวางโจว จำนวน 1 เที่ยวบินต่อวัน ,กรุงเทพฯ-ดานัง (เวียดนาม) จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ขณะที่ก็อยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางบินใหม่เพิ่ม คือเส้นทางบินในประเทศเมียนมาร์ จำนวน 1-2 เส้นทาง ซึ่งมองว่าประเทศเมียนมาร์มีความน่าสนใจ และน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้บริษัทฯวางงบลงทุนราว 2,000 ล้านบาทในปีหน้า แบ่งเป็น 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงสนามบินสมุย รองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างราว 2 ปี และจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 2/59 ซึ่งบริษัทฯได้ประมาณการจำนวนผู้โดยสารในช่วง 15-20 ปีข้างหน้า จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 5 ล้านคน รวมถึงใช้ซื้อเครื่องบินเข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 3-4 ลำในปี 59 จากในช่วงที่เหลือของปี 58 บริษัทฯเตรียมรับมอบเครื่องบินใหม่อีกจำนวน 3 ลำ ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้มีเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 33 ลำ ประกอบกับในปี 59 บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มพันธมิตรเที่ยวบินร่วม (CODE SHARE) อีก 4 สายการบิน โดย 1 ในนั้นจะมีสายการบิน Korean Air ด้วย จากปัจจุบันมีพันธมิตรเที่ยวบินร่วมแล้วจำนวน 20 สายการบิน
พร้อมกันนี้บริษัทฯได้มีการซื้อประกันความเสี่ยงป้องกันความผันผวนของราคาน้ำมัน (Hedging) ในปีหน้าไว้แล้ว 46-47% บนราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 60-61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น และมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิ
"ปีหน้าเราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยก็น่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวดีนัก แต่เราก็หวังว่าเราจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากที่อื่นมาใช้บริการกับสายการบินเราได้ ซึ่งสายการบินของเราก็ถือว่ามีเที่ยวบินที่ค่อนข้างมาก อย่างในอาเซียนเราก็มีมาเลเซีย สิงค์โปร เป็นต้น โดยเราจะเติบโตจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศ คาดจำนวนผู้โดยสารปีหน้าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6 ล้านคนได้"นายพุฒิพงศ์ กล่าว