ในกรณี EASA ปรับลดระดับของประเทศไทยด้วย ผลกระทบต่อสายการบินของไทยที่เกิดขึ้นนั้นจะรุนแรงกว่าการปรับลดของ FAA เนื่องจากเส้นทางบินยุโรปคิดเป็น 30% และ 20% ของรายได้รวมของ THAI และ BA ตามลำดับ แม้ทั้งสองบริษัทจะได้ชี้ให้เห็นว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน IOSA (ซึ่งจะทำให้มีโอกาสน้อยลงที่จะถูกห้ามบินเข้าประเทศ) และมีแผนสำรองที่จะเปลี่ยนจากสัญญาเที่ยวบินร่วม (Code Share) เป็นสัญญาการส่งต่อผู้โดยสาร (Interline) ทั้งนี้หาก EASA ปรับลดระดับประเทศไทยลง ภาพรวมที่ไม่แน่นอนน่าจะยังกดดันราคาหุ้น ของบริษัทในระยะสั้น
การถูกจัดระดับในประเภท 2 หมายความว่าประเทศไทยไม่มีกฎระเบียบที่จำเป็นในการกำกับดูแลสายการบินตามมาตรฐานการบินสากลขั้นต่ำ หรือกรมการบินพลเรือนบกพร่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือมากกว่า เช่น ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค, บุคลากรที่ได้รับการฝึกฝน, การเก็บประวัติหรือกระบวนการตรวจสอบ จะส่งผลให้สายการบินของไทยยังคงให้บริการที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถได้รับอนุญาตให้เพิ่มบริการใหม่ในสหรัฐอเมริกาได้
แม้จะคาดว่าผลกระทบจะจำกัดต่อ THAI, BA และ AAV แต่ความกังวลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมก็น่าจะกดดันมูลค่าของสายการบินไทยทั้งหมด บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ“น้ำหนักการลงทุนเท่าตลาด" สำหรับกลุ่มสายการบินของไทย