บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเป้าหมายสำหรับปี 2559 ของบมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์(TACC)ที่ 3.70 บาท อิงระดับ PE เฉลี่ยอุตสาหกรรมกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มย้อนหลัง 3 ปีที่ 22 เท่า นอกจากนี้ยังคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลจะอยู่ที่ราวร้อยละ 1.4 ต่อปี ภายใต้สมมติฐานการจ่ายปันผลที่ร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของงบการเงินบริษัทฯ
ทั้งนี้ คาดว่า ณ สิ้นปี 2558 บริษัทฯ จะมีรายได้รวมราว 1,000 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ราวร้อยละ 30.3 ซึ่งจะส่งผลให้คาดว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น และปี 2559 และ 2560 จะเติบโตร้อยละ 56.0 และ 27.2 ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยระยะ 3 ปี (CAGR) ราวร้อยละ 34 ต่อปี
จุดเด่นที่น่าสนใจคือ (1) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Key Strategic Partner)กับ CPALL มานานกว่า 12 ปี (2) ผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจเครื่องดื่มมานานกว่า 20 ปี (3) ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง (4) โอกาสในการเติบโตจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง (5) มีความสามารถในการทำกำไรและให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ดี
TACC ประกอบธุรกิจจัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ โดยรายได้หลักมาจากเครื่องดื่มในโถกดที่เป็นรสชาติหลักที่จำหน่ายใน 7-Eleven ทุกร้าน คาดในปี 2558-2561 กำไรโตเฉลี่ยร้อยละ 34 ต่อปี ปัจจัยบวกจากการเติบโตในธุรกิจเครื่องดื่มเคียงคู่กับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง CPALL และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง การขาย IPO ครั้งนี้จะสนับสนุนโครงการเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ (Vending Machine)และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ประเมินราคาเป้าหมายปี 2559 ที่ 3.70 บาท อิง PER 22 เท่า ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มย้อนหลัง 3 ปี