ขณะเดียวกันบริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ 120 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายสาขาเพิ่มเป็น 2,000 สาขา จากคาดสิ้นปีนี้จะมีทั้งหมด 1,600 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาขยายการลงทุนในเมียนมาร์, กัมพูชา และลาว โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 59 อย่างน้อย 1 ประเทศ นอกเหนือจากการที่บริษัท ศรีสวัสดิ์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงทุนและจัดตั้งบริษัทในเวียดนาม ภายใต้ชื่อ Srisawad Vietnam LLC เพื่อซื้อขายรถยนต์ทุกประเภท รวมถึงรถเพื่อการเกษตร โดยเบื้อต้นตั้งงบลงทุนในการปล่อยสินเชื่อไว้ราว 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 10% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากในประเทศทั้งหมด
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 58 บริษัทฯมั่นใจรายได้ ,กำไรสุทธิ และพอร์ตเสินเชื่อ จะเติบโต 50% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/58 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่ประชาชนต้องการเงินไปใช้จ่ายในช่วงวันหยุดยาว ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้จะควบคุมไม่ให้เกิน 4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.6% โดยเป็นผลมาจากการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดทำให้การจัดระดับชั้นลูกหนี้ดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯยังมั่นใจว่าจะซื้อหนี้มาบริหารครบ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงเดือน ธ.ค. นี้จะสรุปการซื้อหนี้ราว 800 ล้านบาท หลังจากช่วงต้นปีที่ผ่านมาซื้อหนี้มาได้แล้ว 200 ล้านบาท
นางสาวธิดา กล่าวถึงกรณีมีข่าวเกี่ยวข้องกับคดีแย่งแบรนด์"เงินติดล้อ"ว่า บริษัทไม่เคยถูกบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด เจ้าของแบรนด์"เงินติดล้อ"ฟ้องร้องแต่ประการใด แต่การฟ้องร้องดังกล่าวเกิดขึ้นกับ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับ SAWAD และขอยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผลประกอบการ และการดำเนินงานของบริษัทฯแน่นอน
"บริษัทฯที่ถูกฟ้องร้องเป็นคนละนิติบุคคลกัน กับ SAWAD และบริษัทฯที่ถูกฟ้องนั้นไม่มีความเกี่ยวของกับ SAWAD แต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นมากกว่า"นางสาวธิดา กล่าว
นางสาวธิดา กล่าวว่า บริษัทฯได้เตรียมงบลงทุน 10-20 ล้านบาท เพื่อใช้ในการรีแบรนด์ ทั้งนั้นส่วนของโลโก้ และ สี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 59 และจะมีการประชาสัมพันธ์ให้รับรู้ถึงแบรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง