นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยถึงกรณีที่องค์กรบริหารการบินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา(Federal Aviation Admintstration หรือ เอฟเอเอ FAA) ได้ประกาศลดระดับประเทศไทยจาก category 1 เป็น category 2 ว่า ไม่น่าจะเกิดผลกระทบมากนัก และเป็นผลทางด้านจิตวิทยาเป็นหลัก แต่สำหรับการประกาศผลตรวจสอบของ EASA (สนง.บริหารการบินแห่งชาติสหภาพยุโรป) ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้จะมีความสำคัญมากกว่า ซึ่งทางบมจ.การบินไทย (THAI) ควรมีแผนสำรองไว้รับมือกับกรณีดังกล่าว
"FAA ดาวน์เกรดเราถามว่ากระทบเศรษฐกิจมากไหม คิดเป็นมูลค่าตัวเงินไม่มากเท่าไหร่ แต่ในความรู้สึกของเรามันก็มีคำถามว่าทำไมเราไม่ดูแลตั้งแต่มีปัญหามา แต่ก็ถือเป็นการพัฒนาตนเองให้เป็นตามสากล ถ้าเราทำได้สุดท้ายมันก็จะกลับมาเอง จะไม่โทษใครแต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นการพลิกโอกาสทำให้แก้ปัญหาที่แท้จริง"นายสมคิด กล่าว
ส่วนผลตรวจสอบของ EASA อย่าเพิ่งกล่าวถึงในขณะนี้ ซึ่งหลายคนเป็นห่วง แต่การทำงานของ EASA มีอิสระจากกัน จะไม่เอาผลมารวมกัน อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าของเราไม่ได้มาตรฐานอย่างที่ควร แต่เราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อกลับมาโดยเร็ว ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมต้องทำให้ดีที่สุด ไม่กระทบเศรษฐกิจแน่นอน
"อย่าไปวิตกกังวลมากเกินไป เพราะปกติเราไม่ได้ทำการบินไปสหรัฐฯอยู่แล้ว ยังไงไทยก็เป็นเมืองที่น่าเที่ยวอยู่ ส่วนเรื่อง EASA ต้องไปถามการบินไทยเรื่องแผนสำรอง ซึ่งมีคนดูแลทั้งดีดี ประธานบอร์ด กระทรวงคมนาคมไม่มีการยืดเวลาไปเรื่อยๆเด็ดขาด ครั้งนี้ทำให้เห็นแล้วว่ามีผลกับภาพลักษณ์พอสมควร"นายสมคิด กล่าว
ส่วนเรื่ององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่จะปลดธงแดงให้ไทยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) และกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ต้องเร่งแก้ไข ปัญหาตอนนี้ก็มีชัดเจน อยู่ที่เราจะต้องแก้ยังไงให้ได้ เรื่องตั้งเลขานุการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน(ศปบพ.) ไม่ได้ผลคงไม่ใช่น่าจะอยู่ที่การบริหารจัดการมากกว่า