ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/59 จะเปิดตัวโครงการใหม่เบื้องต้น 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3 พันล้านบาท และในช่วงต้นปีจะมีการโอนคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog)ราว 6.2 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทวางงบซื้อที่ดินในปีหน้าไว้ที่ 1.5-2 พันล้านบาท โดยยังคงสนใจซื้อที่ดินในทำเลส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าเป็นหลัก
"ปีหน้าเรามองภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจน หลังเกิดการลงทุนของภาครัฐออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวขึ้น และในช่วงต้นปีถึงสิ้นเดือนเมษาฯ ปีหน้าก็ยังมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯอยู่ ทำให้ยังมีปัจจัยหนุนในช่วง 4 เดือนแรก แต่เชื่อว่าหากหมดมาตรการนี้ไปแล้ว การลงทุนของภาครัฐจะเป็นตัวเข้ามาซับพอร์ต อีกทั้งการแข่งขันของผู้ประกอบการแต่ละเจ้าน่าจะรุนแรงเพิ่มขึ้นในปีหน้า เพราะแต่ละรายก็มองเศรษฐกิจและตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น เราก็มองตลาดอสังหาปีหน้าจะขยายตัวได้ราว 10-15% จากปีนี้ที่ไม่ขยายตัว"นายพีระพงศ์ กล่าว
นายพีระพงศ์ กล่าวว่า ในเดือน ม.ค.59 บริษัทจะมีการเปิดเผยแผนการลงทุนโครงการโรงแรมและศูนย์การค้าในศรีราชาอย่างชัดเจน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการลงทุน และสรรหาเครือโรงแรมที่จะเข้ามาบริหารโรงแรมในศรีราชา โดยหากโครงการดังกล่าวเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการและมีผลตอบรับที่ดี และหากบริษัทต้องการเงินลงทุน ก็อาจพิจารณานำสินทรัพย์ดังกล่าวมาจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT)ในอนาคต
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้มากกว่าเป้าหมาย เพราะปัจจุบันมียอดขายเข้าเป้าหมายทั้งปีที่ 5 พันล้านบาทแล้ว ถือเป็นการเติบโตสวนทางกับผู้ประกอบการในธุรกิจสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ ด้านรายได้ยังมั่นใจทำได้ตามเป้า 2 พันล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกมีรายได้แล้ว 1.3 พันล้านบาท และจะมีการทยอยโอนในช่วงไตรมาส 4/58 อีกราว 700 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ และส่วนที่เหลือจะทยอยโอนไปถึงปี 60