บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของบมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง(TKN)เบื้องต้นเทียบกลุ่ม Forward PE กลุ่ม FOOD ที่วิเคราะห์ที่ 19.50 เท่า ได้มูลค่าที่เหมาะสมของ TKN ที่ราว 4.72-5.00 บาท โดยที่มองว่าประเด็นสำคัญในการเติบโตของ TKN คือการขยายตลาดไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะจีนจะเป็นอัพไซด์สำคัญในการเติบโตของบริษัท และเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนอัตรากำไรในอนาคต
TKN ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูป รวมถึงขนมขบเคี้ยวประเภทต่างๆ ภายใต้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย" โดยจะเน้นการใช้วัตถุที่มีคุณภาพในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อจำหน่ายไปยังตลาดภายในและภายนอกประเทศ โดยยอดขาย 95% มาจากสินค้าประเภทสาหร่าย ในด้านของยอดขายในแต่ละประเทศแบ่งเป็นไทย 49.1%, จีน 21.79% และอินโดนีเซีย 7.68% และวัตถุดิบหลักในการผลิตนำเข้าจากประเทศเกาหลี
โครงการอนาคต : 1) บริษัทมีแผนลงทุนสร้างโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ โดยใข้เงินลงทุน 578 ล้านบาท กำลังการผลิตสูงสุด 3.6 พันตัน/ปี โดยได้เริ่มก่อสร้างไปแล้วในเดือน เม.ย. 2015 และเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2016 2) สร้างส่วนต่อเติมโรงงานที่นพวงศ์ โดยเครื่องจักรเดิมของบริษัทมีอายุมากแล้วทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงบริษัทจึงมีแผนที่จะปรับปรุงเครื่องจักรให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 90 BPM เป็น 120 BPM ทั้งนี้ยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงทำให้ต้นทุนการผลิตรวมลดลง 0.6%