พร้อมกันนี้บริษัทฯยังจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท เทร็ก ไทยรุ่ง จำกัด(Trex Thairung co.,ltd)ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ซึ่งดำเนินการผลิตตัวถังรถบรรทุก, รถดัมพ์, รถตู้ปีกนก และรถโม่ปูน คาดว่าจะเริ่มผลิตรถโม่ปูนและจำหน่ายในช่วงกลางปี 59 โดยจะมีสัดส่วนการส่งออกราว 50% ประกอบกับ บริษัทฯเตรียมส่งห้องโดยสารรถขุดตักไปจำหน่ายยังสหภาพยุโรปตั้งแต่ไตรมาส 1/59 จึงคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปีนี้อยู่ที่ราว 5%
"ปี 59 รายได้เราคงจะกลับมาเติบโตได้ตามการฟื้นตัวของความตลาดรถยนต์ที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากภาครัฐฯจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่จะช่วยให้เงินทุนหมุนเวียนเข้ามาในระบบมากขึ้น และยังทำให้ความต้องการรถเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการต่างๆด้วย ในขณะเดียวกันยังจะมีการขยายตัวของระบบโลจิสติกส์ หลังมีการเปิด AEC นอกจากนี้เรายังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้สูงขึ้นด้วย ส่วนแผนการลงทุนในเรื่องของการขยายกำลังการผลิต หรือการลงทุนขนาดใหญ่ๆ จะยังไม่มีเพราะกำลังการผลิตยังคงเพียงพอ"นายสมพงษ์ กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ว่า แนวโน้มกำไรสุทธิจะลดลงราว 8% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 152.41 ล้านบาท ขณะที่รายได้จะลดลงราว 7% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,449.94 ล้านบาท เป็นผลจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และราคาพืชผลทางการเกษตรยังคงตกต่ำ จึงคาดว่ายอดผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศจะลดลงเหลือเพียง 760,000-770,000 คัน จากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ตั้งเป้าหมายไว้ 800,000 คัน