"เครือซีพีไม่ว่า เพราะเป็นไปตามกฎของก.ล.ต.เมื่อผิดก็รับและเมื่อปรับก็หมดเรื่อง ตอนนี้ถือว่าจบเรื่องแล้ว แค่มีการออกข่าวเจ็บ ๆ แสบ ๆ"นายก่อศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
นายก่อศักดิ์ ชี้แจงว่า การเข้าซื้อหุ้น MAKRO ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก่อนที่เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี)จะซื้อกิจการของ MAKRO และซื้อด้วยบัญชีที่เปิดเผย เพราะคิดว่าหากซื้อโดยที่ไม่รู้ราคาที่เครือซีพีเข้าไปไปซื้อจะไม่ถือเป็นการใช้ข้อมูลภายใน เนื่องจากเครือซีพีเป็นผู้เข้าไปเจรจาซื้อ ไม่ใช่ CPALL แต่เมื่อสรุปท้ายที่สุดเครือซีพีก็ได้มอบหมายให้ CPALL เป็นผู้ทำรายการและกู้เงินมาซื้อหุ้น MAKRO
"ขณะที่ซื้อไม่รู้ว่าดีลนี้จะสำเร็จหรือไม่ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ MAKRO เปิดให้ผู้สนใจทั้งในและนอกประเทศจำนวนมากเข้าไปเสนอเงื่อนไข เมื่อ ก.ล.ต.ตัดสินว่าผมผิด ผมก็ยอมรับคำตัดสินของก.ล.ต. ผมไม่รู้ว่าการตัดสินของก.ล.ต.เป็นแบบนี้ ถ้ารู้ก็ไม่ซื้อ"
นายก่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า CPALL ยังมีธรรมาภิบาลที่ดี โดยบริษัทก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนมาโดยตลอด ซึ่งนักลงทุนควรจะพิจารณาการลงทุนใน CPALL จากผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นหลัก
"CPALL ยังมีธรรมาภิบาลที่ดี ตัวผมอาจผิดโดยไม่รู้จัก และไม่ได้เจตนาที่จะทำแบบนี้ ผมยืนยันที่จะอยู่ CPALL ต่อไป และเป็นบอร์ดของทั้ง CPALL และ MAKRO ซึ่งบอร์ดได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วก็เฉยๆ แค่รับทราบ...เราก็สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนมาตลอด ก็อยากให้นักลงทุนเข้าใจ คิดว่านักลงทุนคงจะพิจารณาจากผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นหลัก แต่ถ้านักลงทุนจะพิจารณาจากประเด็นนี้แล้วไม่ถือหุ้น CPALL ก็คงไปทำอะไรไม่ได้"นายก่อศักดิ์ กล่าว