นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ คือ ห้องน้ำสำเร็จรูป โดยขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ ไซมิส และ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) สนใจนำห้องน้ำสำเร็จรูปของบริษัทไปติดตั้งในโครงการคอนโดมิเนียม จำนวนรวม 3,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/59 จนถึงสิ้นปี 59
นายสุรพล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามีรายได้จากห้องน้ำสำเร็จรูปปีละ 200-300 ล้านบาท และยังมีรายได้อื่น ๆ เช่น การผลิตเฟอร์นิเจอร์เฉพาะให้กับโรงพยาบาล เป็นต้น ส่วนผนังกั้นน้ำนั้นส่วนใหญ่จะขายให้หน่วยงานราชการ เช่น กรมชลประทาน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ปี 59 สามารถทำกำไรสุทธิได้
ทั้งนี้ SIAM จะเริ่มใช้งวดบัญชีใหม่ตามปีปฏิทินตั้งแต่ เดือน ม.ค.-ธ.ค.59 จากเดิมงวดปีเริ่มเดือน ก.ค.-มิ.ย. โดยในงวด 1 ปีที่ผ่านมา สิ้นสุดเดือน มิ.ย.58 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 59 ล้านบาท ขณะที่ในงวดไตรมาส 1 (ก.ค.-ก.ย.58) มีกำไรสุทธิแล้ว 42 ล้านบาท และแนวโน้มไตรมาส 2 (ต.ค.-ธ.ค.58) ก็ยังเป็นทิศทางที่ดีอยู่จากที่มีงานโครงการเข้ามา และงานราชการที่ชะลอไปก็กลับมาดีแล้ว
"กำไรที่จะเติบโตเป็นผลจากรายได้รวมที่เติบโต โดยเฉพาะจากการโครงการที่เพิ่มมากขึ้น และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้งบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี เช่น เหล็กเป็นวัตถุดิบหลักราคาอยู่ระดับต่ำ ทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น โรงงานมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ ตอนนี้ใช้อยู่ 50-60% สามารถเพิ่มขึ้นได้อีก เปลี่ยนจากโอทีเป็นกะได้ ปัจจัยที่ห่วงตอนนี้คือเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และระวังการขายไปแล้วเก็บเงินไม่ได้"นายสุรพล กล่าว
นายสุรพล กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางจำหน่าย 3 ช่องทาง คือขายผ่านดีลเลอร์ ขายงานโครงการราชการ และผ่านโมเดิร์นเทรด ภายใต้แบรนด์ลักกี้ คิงดอม โอกามูระ ไพลอท เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้เป็นในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% ขณะที่เฟอร์นิเจอร์ในปีนี้จะเติบโต 10-15% จากงานโครงการของหน่วยราชการ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าลงทุนด้านพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะสินทรัพย์( Due diligence) โครงการโซลาร์ฟาร์ม 2 แห่งในญี่ปุ่น ระยะแรกจะลงทุน 20 เมกะวัตต์ จะพยายามสรุปให้ได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราวเมกะวัตต์ละ 120 ล้านบาท SIAM จะเข้าถือหุ้น 100% หากดำเนินการได้ก็จะเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.-มี.ค.59 ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี คาดจะเริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ปี 60
"จะทำให้แนวโน้มรายได้จะปรับตัวดีขึ้นในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าหมายในอนาคตมีรายได้จากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ อาคารสำเร็จรูปฯ 50% และธุรกิจอื่นๆ ซึ่งรวมพลังงานทดแทน ราว 50% จากปัจจุบันมีรายได้จากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 80%"นายสุรพล กล่าว