TTCL ตั้งป้าปี 59 รายได้ 2.2-2.3 หมื่นลบ.,ผถห.ตปท.ตัดขายหุ้นให้ผู้บริหาร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 4, 2015 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบชัย ธนสุกาญจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินการบัญชี บมจ.ทีทีซีแอล(TTCL)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายปี 59 อยู่ที่ 2.2-2.3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 15% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จากปีนี้อยู่ที่ราว 1.89%

เนื่องจากในปีหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกังหันก๊าซในเมียนมาร์ ขนาดกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์เต็มปี หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท จากปีนี้ที่มีการขายไฟได้เพียง 6-7 เดือน โดยธุรกิจไฟฟ้าให้มาร์จิ้นสูง ประกอบกับงานก่อสร้างที่บริษัทรับมาใหม่มีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นด้วย

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/58 ราว 5 พันล้านบาท และอีก 60% จะรับรู้รายได้ในปีหน้า ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯในปี 60 ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการประมูลงานก่อสร้างประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการในต่างประเทศ 75% คาดหวังจะได้รับงาน 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยทราบผลการประมูลในปีหน้า

ส่วนความคืบหน้าในการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1,280 เมกะวัตต์ที่เมียนมาร์นั้น คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในครึ่งหลังปี 59 มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4-5 ปี ซึ่ง TTCL Power จะเป็นผู้ลงทุน โดยปัจจุบันบริษัทอยุ่ระหว่างรอการอนุมัติราคาขายไฟของรัฐบาลเมียนมาร์หลังจากที่บริษัทได้เสนอค่าไฟฟ้าไป คาดว่าจะได้รับความชัดเจนหลังการเลือกตั้งในเมียนมาร์เสร็จสิ้นลงไปแล้ว

“การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่พม่า 1,280 MW ยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุน เนื่องจากเรามีเงินสดและวงเงินในการกู้รวมแล้ว 2-3 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการทำธุรกิจ และธุรกิจก่อสร้างของบริษัทใช้เงินทุนไม่มาก"นายกอบชัย กล่าว   นายกอบชัย กล่าวว่า สำหรับแผนที่บริษัทจะไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 30-45 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาซื้อขายไฟ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จกลางปีหน้า และก่อสร้างได้ครึ่งหลังปี 59 โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปี ใช้เงินลงทุน 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ/เมกะวัตต์ โดยการลงทุนจะเป็นของ TTCL Power เช่นกัน

สำหรับความคืบหน้าในการนำบริษัท โตโย-ไทย พาวเวอร์ โฮลดิ้งส์ (TTCL Power) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์นั้นคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ในต้นปี 60 โดยจะระดมทุนประมาณ 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆที่ บริษัทเตรียมเข้าไปลงทุน

"TTCL Power จะดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งหมดของ TTCL ซึ่งขณะนี้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 248 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เมียนมาร์ 120 เมกะวัตต์ และถือหุ้นในโรงไฟฟ้าที่จังหวัดอ่างทอง 8 เมกะวัตต์ และจากการไปถือหุ้นในโรงไฟฟ้านวนคร 120 เมกะวัตต์ และขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะนำโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งมีกำลังการผลิต 1,280 เมกะวัตต์ เข้าไปนับรวมในจำนวนเท่าไร เพราะขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ทั้งนี้ หลังจาก TTCL Power เข้าตลาดหุ้นแล้ว กลุ่ม TTCL จะถือหุ้นใน TTCL Power สัดส่วน 50% จากปัจจุบันที่ถือ 70%"นายกอบชัย กล่าว

นายกอบชัย กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท 2 ราย คือ TOYO ENGINEERING CORPORATION (TEC) และ Chiyoda Coporation (CHIYODA) จะขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TTCL รวม 43.8 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.86% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทให้กับกลุ่มผู้บริหารของ TTCL โดยจะเป็นลักษณะขายรายการขนาดใหญ่ (Big Lot) คาดว่าจะทำรายการเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้

ในส่วนของ TEC จะขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TTCL จำนวน 27 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.86% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด เนื่องจาก TEC มีความต้องการใช้เงินเพื่อไปแก้ไขความเสียหายทางการเงินของ TEC ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ยืนยันว่าการขายหุ้นครั้งนี้จะไม่กระทบความสัมพันธ์ทางธุรกิจของทั้งสองฝ่าย และ TEC จะยังคงถือหุ้นของบริษัทฯ ในสัดส่วน 17.43%

ด้าน CHIYODA จะขายหุ้นที่ถือใน TTCL จำนวน 16.8 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด หลังการขาย CHIYODA จะคงถือหุ้นใน TTCL สัดส่วน 3% ซึ่งสาเหตุการขายเพื่อทบทวนสินทรัพย์ของ CHIYODA และแม้จะไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TTCL ต่อไป แต่จะมีความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้บริหารของ TTCL ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการบริการด้านการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) ในภูมิภาคนี้

ขณะที่กลุ่มผู้บริหารของ TTCL เข้าซื้อหุ้นจาก TEC และ CHIYODA เพราะมีความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานและแผนธุรกิจ รวมถึงเข้าใจธุรกิจของ TTCL เป็นอย่างดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ