บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ให้มูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นสำหรับหุ้นบมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง(SPRC) ที่ 11.76 บาท/หุ้น โดยคาดว่ากำไรปกติในปี 59 จะอยู่ที่ราว 8.5 พันล้านบาท กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.96 บาท หลังมองว่าน่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเร็วกว่าการลดลงของราคาน้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานซึ่งไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันทั้งค่าการกลั่น (GRM) และกำไรของ SPRC อยู่ในระดับดี ขณะที่คาดกำไรในปี 58 อยู่ที่ราว 7-8 พันล้านบาท
SPRC เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) จำนวน 1,439,722,300 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 197,222,300 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมของ PTT จำนวน 1,242,500,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 9 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากการขายหุ้น IPO รวม 12,958 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์, บล.ฟินันซ่า, บล.ภัทร และบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ขณะที่บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนภาระหนี้ที่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างทุนของบริษัทและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ
SPRC ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันขนาด 1.65 แสนบาร์เรล/วัน คิดเป็นกำลังผลิตประมาณ 13.2% ของกำลังการกลั่นน้ำมันดิบทั้งหมดของไทย โดยหลังการขายหุ้น IPO ยังคงมีเชฟรอน เซาท์ โฮลดิ้งส์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 60.56% และบมจ.ปตท.(PTT) ถือหุ้น 5.41%