ABC ตั้งเป้าปี 59 ยอดขาย 3 หมื่นลบ.รุกซื้อกิจการเพิ่ม-ปรับเป็นโฮลดิ้ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 8, 2015 13:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิรภัทร วีรชยทองคำ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 59 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจากรายได้ของธุรกิจประมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ รวมถึงมีแผนซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์อีกกว่า 10 ดีลในปีหน้า ซึ่งหากสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายก็จะมีโอกาสที่ผลการดำเนินงานจะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ และบริษัทก็จะพิจารณาล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทโฮลดิ้งในไตรมาส 1/59 เพื่อมุ่งดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเปิดตัวบริษัทลูกอีก 2 บริษัทภายใต้โฮลดิ้งคือ เอบีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ เอบีซี อินโนเวชั่นเพื่อให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นการสร้างความชัดเจนทางธุรกิจให้กับบริษัท

"ผลการดำเนินงานในปีหน้าถ้าเราทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 หมื่นล้านบาท ก็ทำให้ปีหน้ามีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร และก็จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่เรามีอยู่ได้ประมาณ 50 ล้านบาท แต่ปีนี้ก็ยังขาดทุนอยู่ ส่วนสัดส่วนรายได้ปีหน้าอสังหาฯก็ยังอยู่ที่ 90% ส่วนอีคอมเมิร์ชมีสัดส่วน 10% เหมือนเดิม"นายจิรภัทร กล่าว

นายจิรภัทร กล่าวว่า เป้าหมายยอดขายในปีหน้า ยังมาจากธุรกิจประมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ ซึ่งบริษัทมีอสังหาริมทรัพย์ให้เลือกมูลค่ามากกว่า 3 แสนล้านบาท โดยจะมีการจัดประมูลขึ้นทุกๆ 3 เดือน นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าซื้อและควบรวมกิจการไม่ต่ำกว่า 10 ดีล รวมไปถึงการซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์อีกกว่า 10 ดีลในปีหน้า โดยปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าดีขึ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังมีความต้องการอยู่ รวมถึงมาตรการภาครัฐที่จะช่วยเข้ามาสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะทยอยมีข้อสรุปออกมาในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ก่อนสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดดีลซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ได้อีก 1 ดีล

"ปีหน้าเราก็จะมีซื้อกิจการอสังหาฯไม่ต่ำกว่า 10 ดีล และมีการซื้อโครงการหรือที่ดินในบางทำเลที่มีศักยภาพแต่ยังพัฒนาไม่เสร็จอีกไม่ต่ำกว่า 10 ดีล โดยเงินลงทุนที่จะซื้อตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะบางอย่างก็คลาดเคลื่อนไปบ้าง ตอนนี้เราก็มีคุยเกินครึ่งของดีลที่เราจะซื้อ ส่วนแหล่งเงินทุนเราก็อาจจะมีใช้เงินกู้บ้าง ส่วนเงินสดของบริษัทตอนนี้เราก็มีประมาณ 600 กว่าล้านบาท แต่เรายืนยันว่าไม่มีการเพิ่มทุนหรือการแลกหุ้นอย่างแน่นอน"นายจิรภัทร กล่าว

นายจิรภัทร กล่าวว่า ในนช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าซื้อกิจการออร์คิด วิลล์ ซึ่งเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ตั้งอยู่บนสุขุมวิท 39 โดยบริษัทนำมาปรับปรุงและตกแต่งใหม่เป็นคอนโดมิเนียมหรูเพื่อขาย ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท โดยเป้าหมายเน้นขายชาวต่างชาติ ซึ่งจะมีเอเจนซี่ต่างชาติชื่อดังช่วยเหลือในการจำหน่ายโครงการดังกล่าว ทั้งนี้การขายโครงการดังกล่าวจะเริ่มขายได้ในไตรมาส 1/59 และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันที โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายห้องชุดภายในปี 59 ราว 2.5 พันล้านบาท

สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้น บริษัทมีแผนจะเปิดธุรกิจบริการ อี-เพย์เม้นท์ (e-Payment) ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ โอนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตต่างๆ ทั้งของตนเองและคนใกล้ชิดมาไว้ในบัตรเอบีซี (ABC Card) เพื่อชำระเป็นค่าบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมกว่า 100 รายการ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ นับเป็นการชำระค่าบริการผ่านออนไลน์ด้วยคะแนน รวมถึงธุรกิจออนไลน์ (e-Business) และธุรกิจประมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ (e-Auction) ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกับสถาบันการเงินและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำในการรวบรวมอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดีมานำเสนอในการประมูล โดยบริษัทจะเปิดประมูลครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งเป็นการรวบรวมอสังหาริมทรัพย์บนทำเลทองมากกว่า 500 รายการ มูลค่าร่วมกว่า 3 แสนล้านบาท คาดว่าการประมูลในครั้งนี้จะสามารถประมูลสินทรัพย์ออกไปได้ประมาณ 5-10% ของทรัพย์ทั้งหมด

ขณะที่ในปีหน้าคาดว่าจะสามารถเปิดการให้บริการใหม่ คือ อีวอลเลท (e-Wallet) ตัวแทนให้บริการเก็บเงินผ่านระบบอีเลคทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจอีเพย์เมนท์ (e-Payment) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในปีหน้า

ส่วนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทเป็นโฮลดิ้งนั้นคาดว่าจะสามารถเปลี่ยนได้ในไตรมาส 1/59 หลังจากปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเพื่อยื่นขออนุญาตการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้ สินทรัพย์ของบริษัทจะถูกโอนให้กับบริษัทลูกทั้ง 2 บริษัท โดยจะมีการนำเรื่องเพื่อขออนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในเดินหน้าธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

“การปรับโครงสร้างกิจการขึ้นเป็นโฮลดิ้งจะช่วยให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ และมีความคล่องตัวในแต่ละธุรกิจของบริษัทฯมากขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกในการขยายธุรกิจ รวมถึงเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ดีที่สุด"นายจิรภัทร กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ