นายวิลเลียม ลูอีส สโตน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง(SPRC) กล่าวว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวไทยได้ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทปิโตรเลียมชั้นนำแห่งหนึ่งของไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาธุรกิจของบริษัทให้เติบโตต่อเนื่อง และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน
วัตถุประสงค์ของบริษัทในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ครั้งนี้จะเป็นโอกาสการลงทุนในระยะยาว โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนภาระหนี้ที่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างทุนของบริษัทฯ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการต่อไป
SPRC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ เชฟรอน เซาท์ โฮลดิ้งส์ 60.56% ,Merrill Lynch International เป็นผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้น 10.17% และบมจ.ปตท.(PTT) 5.41% ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO ในครั้งนี้ พิจารณาจากการประเมินมูลค่าโดยวิธีประเมินมูลค่าปัจจุบันจากกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต (discounted cash flow) และวิธีประเมินมูลค่าเชิงเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเดียวกันและสามารถเทียบเคียงได้ (market comparable) ประกอบกับการประเมินความต้องการเบื้องต้นจากนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบอัตราส่วน ระหว่างราคา IPO กับมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) ของบริษัทในไตรมาส 3/58 จะเท่ากับ 1.11 เท่า ทั้งนี้บริษัทมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ที่ 6,381.88 ล้านบาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองตามกฎหมาย
SPRC ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันขนาด 1.65 แสนบาร์เรล/วัน คิดเป็นกำลังผลิตประมาณ 13.2% ของกำลังการกลั่นน้ำมันดิบทั้งหมดของไทย โดย SPRC เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 1,439,722,300 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 197,222,300 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมของ PTT จำนวน 1,242,500,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 9 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากการขายหุ้น IPO รวม 12,958 ล้านบาท ขณะที่ SPRC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยหลักเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO จำนวน 39,023.12 ล้านบาท
ขณะที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ยังให้ราคาเป้าหมายของหุ้น SPRC ที่ระดับสูงกว่า IPO โดยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ให้ราคาเป้าหมายในช่วง 9.20-10.80 บาท/หุ้น และบล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้มูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นที่ 11.76 บาท/หุ้น