นายวิทยา ฉายสุวรรณ ประธานคณะกรรมการ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่า อีสท์วอเตอร์พร้อมจะก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้นำแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนมาใช้ควบคู่กับการทำธุรกิจ โดยผุดโครงการ “Water Complex" เน้นการใช้น้ำทุกหยดอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนวคิดนี้อยู่บนพื้นฐานการสร้างระบบน้ำของประเทศสู่ความยั่งยืนด้วย 3 W คือ W แรก Water Grid สู่ W ที่สอง Water Network และตามด้วย W ที่สาม Water Complex เพื่อสร้างความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำให้กับเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนว่าในช่วงระยะเวลาต่อจากนี้จะมีน้ำใช้อย่างไม่ขาดแคลนในทุกพื้นที่
Water Complex เป็นการวางโครงสร้างด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบแบบครบวงจรให้เหมาะกับแต่ละประเภทของอุตสาหกรรม ทั้งน้ำดิบ ระบบน้ำประปา ระบบน้ำแคลิฟาย ระบบน้ำ RO ระบบ Reuse และ Recycle รวมทั้งระบบน้ำดีมิน หรือ Demineral Water ที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุตสาหกรรมที่มีการใช้หม้อไอน้ำความดันสูง หรืออุตสาหกรรมที่ต้องมีการใช้น้ำในกระบวนการผลิตที่มีความสะอาดสูงมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยา เครื่องสำอาง และการปฏิบัติการทางการแพทย์ เป็นต้น
"การบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจรในลักษณะนี้เพื่อให้เกิดการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าและรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการรักษาป่าต้นน้ำและการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า โดยที่ปัจจุบันน้ำทิ้งจากภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมมีกว่า 14 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน หากนำน้ำกลับเข้ามาใช้ในระบบได้จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับภาคอุตสาหกรรม และยังช่วยลดปริมาณน้ำเสียที่ทิ้งลงแหล่งน้ำสาธารณะอีกด้วย สำหรับภาคอุตสาหกรรมเองการใช้น้ำที่เหมาะกับประเภทของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้ลดต้นทุนการใช้น้ำไปได้มาก ซึ่งอีสท์วอเตอร์ มีความพร้อมที่จะให้บริการอย่างมืออาชีพ"นายวิทยา กล่าว
โดยเป้าหมายสำคัญที่อีสท์วอเตอร์จะเข้าไปเจาะตลาดใหม่ในธุรกิจ Water Complex ก็คือกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ตามแนวซูเปอร์คลัสเตอร์ที่จะเกิดขึ้นตามนโยบายการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกในอนาคตอันใกล้นี้