บริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันจากการได้รับความร่วมมือทางธุรกิจจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจัดซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ให้เช่าในสัดส่วนมากกว่า 50% ของรถยนต์ที่จัดซื้อทั้งปีผ่านตัวแทนจำหน่ายซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่คือตระกูลจันทรเสรีกุลเป็นเจ้าของ การจัดซื้อรถยนต์จากตัวแทนจำหน่ายของผู้ถือหุ้นใหญ่ทำให้บริษัทได้ประโยชน์ด้านข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษจากผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งช่วยให้บริษัทจัดซื้อรถยนต์ให้เช่าในราคาที่ต่ำกว่า
และนอกจากการมีศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 800 แห่งซึ่งบริษัททำสัญญาทางธุรกิจด้วยแล้ว บริษัทยังเป็นเจ้าของศูนย์บริการของตนเองซึ่งทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการบำรุงรักษาที่ไม่จำเป็นอันอาจเกิดจากศูนย์บริการภายนอกด้วย บริษัทจัดจำหน่ายรถยนต์ให้เช่าซึ่งหมดสัญญาเช่ากับลูกค้าแล้วผ่านทางบริษัทลูกคือ บริษัท กรุงไทย ออโตโมบิล จำกัด ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารของบริษัทกรุงไทย ออโตโมบิลและการได้รับการรับรองคุณภาพรถยนต์ใช้แล้วภายใต้โครงการ “โตโยต้าชัวร์" ช่วยให้บริษัทสามารถจำหน่ายรถยนต์ให้เช่าที่หมดอายุสัญญาในราคาที่สูงกว่าการจำหน่ายผ่านตัวแทนรับประมูลทั่วไป ทำให้บริษัทมีกำไรจากการขายรถยนต์ที่หมดสัญญาเช่าอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองของบริษัทกรุงไทย ออโตโมบิลได้รับผลกระทบจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลซึ่งทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์มือสองถูกแทนที่ด้วยความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ในทันที ส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองปรับตัวลดลงอย่างมาก สถานการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะยังคงต่อเนื่องต่อไปเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ยังคงมีแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อพยายามลดยอดรถยนต์ใหม่คงคลังส่วนเกินให้หมดไป คณะผู้บริหารของบริษัทกรุงไทยออโตโมบิลให้ความสำคัญในการขายรถยนต์ให้เช่าที่หมดอายุของบริษัทมากกว่าการขายรถยนต์มือสอง ทั้งนี้ กำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากความต้องการรถยนต์มือสองที่ลดลงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นโยบายตัดค่าเสื่อมราคาแบบอนุรักษ์นิยมยังคงทำให้บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าถึงแม้ว่าอัตรากำไรจะลดลง ตั้งแต่ปี 2551-2555 กำไรสุทธิของบริษัทกรุงไทย ออโตโมบิลคิดเป็นสัดส่วน 12%-14% ของกำไรสุทธิรวมของบริษัท อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือ 3% ของกำไรสุทธิรวมของบริษัทในปี 2556 และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 8%ในปี 2557 และ 6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ทั้งนี้ ราคารถยนต์มือสองได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 2557 แต่การฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับปกติยังคงมีความไม่แน่นอนและต้องใช้เวลาพอสมควร
ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่รุนแรง อัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากค่าเช่ารถยนต์ของบริษัทลดลงจาก 19.1% ในปี 2554 เหลือ 17.1% ในปี 2555 และ 17.2% ในปี 2556 อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นของรายได้ค่าเช่ารถยนต์กลับเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในช่วงปี 2557 และ 9 เดือนแรกของปี 2558 เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ในปี 2556 ผลของราคารถยนต์มือสองที่ลดลงอย่างมากทำให้ผลกำไรของบริษัทกรุงไทย ออโตโมบิลลดลงถึง 83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงจาก 54.4 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 9.5 ล้านบาทในปี 2556 ในปี 2557 บริษัทกรุงไทย ออโตโมบิลมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 16.7 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท ลดลง 32% จากปี 2555
ทั้งนี้ ในปี 2557 กำไรสุทธิของบริษัทยังลดลงมาอยู่ที่ 214 ล้านบาทอันเป็นผลมาจากการลดลงของราคารถยนต์มือสองและการชะลอตัวของธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง สำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับ 165 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิของบริษัทลดลงจาก 19.4% ในปี 2555 เหลือ 16.3% ในปี 2556 เหลือ 14% ในปี 2557 และเหลือ 12.8% ในงวด 9 เดือนแรกปี 2558 แม้ว่าอัตรากำไรสุทธิจะลดลง แต่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วยังถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
บริษัทมีฐานะสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินในระดับปานกลาง โดยมีสภาพคล่องที่เพียงพอจากค่าเช่าที่มีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ลักษณะของสินทรัพย์ให้เช่าซึ่งมีสภาพคล่องสูงในการจำหน่ายจะช่วยลดทอนความเสี่ยงด้านสภาพคล่องให้แก่บริษัทได้บางส่วนด้ว