การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,316.19 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,294.41 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 395 หลักทรัพย์ ลดลง 687 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 250 หลักทรัพย์
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับลงต่อ แรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ โดยรวม 1-2 วันนี้นับจากตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป ติดลบมี 3 สาเหตุ คือ นักลงทุนบางส่วนรอความชัดเจนของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในสัปดาห์หน้า ตัวเลขส่งออกของจีนหดตัวส่งผลการชะลอตัวของเศรษฐจีน ทำให้มีแรงกดดันเพิ่มเติมต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งถ้าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวก็จะส่งผลต่อสินค้าโภคภัณฑ์ โดยราคาน้ำมันที่ลดลงก็จะเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี เหมืองแร่ ปรับตัวลงส่งผลต่อตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย ขณะที่น้ำหนักการลงทุนของตลาดหุ้นไทยอยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ตลาดรวมปรับลงต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายในวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ก็คาดว่าตลาดจะมีมูลค่าซื้อขายเบาบาง และนักลงทุนจะรอไปพิจารณาปัจจัยการลงทุนในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 ธ.ค.ก็จะมีความชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ ขณะที่ในประเทศก็ยังรอดูปัจจัยบวกจากการตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์ ที่คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ,การประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz และความคาดหวังต่อเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ที่จะเข้ามาในช่วงเดือนสุดท้ายของปี
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,803.00 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,233.70 ล้านบาท ปิดที่ 232.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,022.02 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
TKN มูลค่าการซื้อขาย 1,483.88 ล้านบาท ปิดที่ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,120.47 ล้านบาท ปิดที่ 432.00 บาท ลดลง 6.00 บาท