กลุ่มการบินบวกสวนตลาด นำโดย THAI พุ่ง 10.37%หลังผ่านมาตรฐานการบิน EASA

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 11, 2015 10:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นในกลุ่มการบินปรับตัวขึ้นทั่วหน้า โดยเมื่อเวลา 9.58 น.หุ้น AAV อยู่ที่ 4.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท(+3.08%)มูลค่าซื้อขาย 5.63 ล้านบาท

หุ้น AOT อยู่ที่ 320.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท(+1.91%)มูลค่าซื้อขาย 71.33 ล้านบาท

หุ้น BA อยู่ที่ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท(+3.72%)มูลค่าซื้อขาย 24.06 ล้านบาท

หุ้น NOK อยู่ที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+7.35%)มูลค่าซื้อขาย 2.25 ล้านบาท

หุ้น THAI อยู่ที่ 9.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท(+10.37%)มูลค่าซื้อขาย 22.93 ล้านบาท

ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,297.10 จุด ลดลง 0.72 จุด(-0.06%)เมื่อเวลา 9.58 น.

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า EASA ประกาศเป็นทางการไม่มีประเด็นเกี่ยวกับประเทศไทยที่เป็นลบ ทำให้ บมจ.การบินไทย(THAI)ยังบินไปยุโรปได้ตามปกติ เส้นทางบินไปยุโรปทำรายได้ถึง 1 ใน 3 ของรายได้รวม แต่ไม่แนะนำเพราะ THAI ยังต้องใช้เวลาในการปรับโครงสร้างองค์กรอีกระยะใหญ่ โดยยังชอบ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น(AAV)(ราคาเป้าหมายปีหน้า 6 บาท) มากที่สุดในกลุ่มนี้ ยังคงแนะนำ"ซื้อ"

ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุว่า คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป (European Commission) ร่วมกับหน่วยงานความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) ออกแถลงการณ์ว่าไม่มีสายการบินของไทยในรายชื่อสายการบินที่ไม่อนุญาตให้ทำการบิน มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มสายการบินในวันนี้โดยเฉพาะ THAI, BA

ส่วนบล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ผลปรากฎว่า การตรวจสอบของ EASA ออกมาดีกว่าคาด โดยยังคงรับรองสายการบินสัญชาติไทย มีมาตรฐานการบินตามข้อกำหนดของยุโรป ซึ่งไม่เป็นไปในลักษณะเดียกับผลการประเมินของ FAA ของสหรัฐล่าสุด และ ICAO(ประกาศขึ้นธงแดงให้กับสายการบินสัญชาติเมื่อปลาย มี.ค. 2558 โดยให้เหตุผลว่า มาตรฐานการกำกับดูแลสายการบินของกรมการบินพลเรือนไทย (บพ.) ต่ำกว่ามาตรฐาน และเป็นผลให้กรมการบินพลเรือนบางประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ มีมาตรการห้ามมิให้สายการบินสัญชาติไทยเพิ่มจุดบิน หรือเที่ยวบินใหม่ๆ ขณะที่ประเทศอื่นๆ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกงได้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยสายการบินจากประเทศไทยเข้มงวดขึ้น)

คำตัดสินของ EASA ทำให้ตัดความกังวลต่อแนวโน้มธุรกิจของ THAI, BA ทั้งในเรื่องความสามารถในการเพิ่มจุดบินและจำนวนเที่ยวบิน รวมถึงภาพลักษณะและความมั่นใจในบริการ เพราะปัจจุบัน THAI มีจุดบินเข้ายุโรปมากถึง 11 เมือง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากยุโรปคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด (30% ของรายได้รวม ต่อปีรวมทุกจุดบินอยู่ราว 1.65 แสนล้านบาท จากการศึกษาจากนักวิเคราะห์ ASPS พบว่าหากจำนวนลูกค้าจากยุโรปที่ลดลง 1% จะกระทบรายได้ และกำไรปี 2559 ลงราว 0.3% และ ลดลง 9.4%)

และ BA แม้จะไม่ได้บินไปยังยุโรปโดยตรง มีส่วนรายได้จากการขายตั๋วเครื่องบินในฝั่งยุโรป ผ่านการให้บริการเที่ยวบินร่วม ภายใต้ข้อตกลงที่มีไว้กับสายการบินครบวงจรในยุโรป (Code Share) ทั้งสิ้น 6 สายการบิน บวกกับข้อตกลงInterline และการขายตั่วระบบเอเยนต์ รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้รวม (จากการศึกษาของนักวิเคราะห์ พบว่าทุก 1% ที่ลูกค้ายุโรปที่ลดลง จะกระทบต่อรายได้ และกำไรสุทธิ ลดลง 0.2% และ 1.7% กระทบต่อมูลค่าพื้นฐาน 0.3 บาท)

ขณะที่ราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทได้ลดลงอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ยังคงแนะนำ"ซื้อ" BA(FV@B27.25) แต่ยังยังคงให้ Switch THAI(FV@B9.9) มายังหุ้นสายการบินอื่น ๆ ทั้ง BA, AAV(FV@B5.8) หรือ AOT(FV@B364.94) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสายการบิน มีรายได้จากการเก็บค่าเช่า หรือใช้พื้นที่สนามบิน การเติบโตจะควบคู่ไปกับ จำนวนเที่ยวบินและ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งในปี 2558 คาดว่าจะสูงถึง 30 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 19.5% จากปี 2557 และ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.1% ในปี 2559 เป็น 32-33 ล้านคน


แท็ก AOT  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ