(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามตลาดภูมิภาค หลังราคาน้ำมันร่วงต่ำสุดรอบ 7 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 14, 2015 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันหมด ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้ทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 ปีอีกครั้ง และยังมีเรื่องการปรับพอร์ตหุ้นธ.กรุงเทพ(BBL) หลังจากที่จะถูกถอดออกจาก MSCI Emerging Market ซึ่งจะมีผลในวันนี้ โดยคาดว่าแรงขายจะยังมีอยู่

นอกจากนี้นักลงทุนยังให้ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อยู่ โดยเฟดจะมีการประชุมในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,250-1,260 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290-1,295 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(11 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,265.21 จุด ลดลง 309.54 จุด(-1.76%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,933.47 จุด ลดลง 111.71 จุด(-2.21%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.37 จุด ลดลง 39.86 จุด(-1.94%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 343.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 31.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 400.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 57.22 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 22.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 14.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 10.82 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 ธ.ค.58)1,280.92 จุด ลดลง 16.90 จุด(-1.30%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,593.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 ธ.ค.58) ปิดที่ 35.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 ธ.ค.58)ที่ 9.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.12/14 แนวโน้มยังอ่อนค่า รอความชัดเจนเฟดกลางสัปดาห์นี้
  • กพท.ขีดเส้นใน มี.ค.59 สายการบิน 41 สายต้องยื่นเอกสารคู่มือ เพื่อเข้าคิวเริ่มตรวจมาตรฐานและออก AOC ใหม่ พร้อมเร่งจ้างผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษเสริมทีมตรวจสอบตามมาตรฐาน ICAO คาดเริ่มงานได้ปลาย ม.ค.59 อธิบดีมั่นใจ ส.ค.59 จะเริ่มทยอยออก AOC ได้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการให้บริการเช็คทั่วประเทศ ณ สิ้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ทั้งระบบมีเช็คเรียกเก็บรวม 5.92 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน และมีมูลค่ารวม 3 ล้านล้านบาท ทรงตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเช็คทั้งระบบพบว่ามีเช็คคืนไม่มีเงินหรือเช็คเด้ง ปริมาณ ทั้งสิ้น 6.84 หมื่นใบ เพิ่มขึ้น 8,389 ใบ หรือ 14% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่มีมูลค่าเช็คเด้ง 9,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,020 ล้านบาท หรือ 27.33% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยเช็คส่วนใหญ่ที่เด้งจะเป็นเช็คของรายย่อยๆ ที่มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท อยู่ถึง 99.4%
  • นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ หากเฟดมีมติให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์อาจจะเห็นเงินบาทปรับตัวลงไปแตะที่ระดับ 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในช่วงใกล้สิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่เคลื่อนไหวระดับ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ บวกกับมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์และราคาน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) ที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สะท้อนภาพเงินเหรียญสหรัฐจะแข็งค่าขึ้นอีก
  • "ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สื่อสากล ในฐานะผู้จัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 (มอเตอร์ เอ็กซ์โป) เปิดเผยว่า ยอดจองรถอเนกประสงค์ทั้ง เอสยูวีและพีพีวีภายในงานเติบโต กว่า 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็น 31% จากปีก่อนอยู่ที่ 15% ส่วนรถยนต์นั่งอยู่ที่ 44% จากปีก่อน 50% และรถกระบะอยู่ที่ 17% จาก ปีก่อน 15% ส่วนอื่น ๆ 8%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS(ฟินันเซีย ไซรัส)แม้ราคาหุ้นปัจจุบันจะมี upside เพียง 6% จากราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 22.50 บาท แต่ก็เป็น upside ที่มากที่สุดในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลซึ่งเป็นกลุ่มที่ปลอดภัยแม้ในยามภาวะเศรษฐกิจซบเซา และ BDMS ยังเป็นหุ้นที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับประมาณการขึ้นมากกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่ม โดยคาดกำไรปี 2016 ของ BDMS โตสูงสุดในกลุ่มคือ 39% Y-Y จากทั้งรพ.เดิมและรพ.ใหม่ 14 แห่งที่ซื้อมาในช่วง 2 ปีก่อนเริ่มออกดอกผล
  • EPG(ซีไอเอ็มบี)"ซื้อ"เป้า 14.50 บาท เป็น 1 ในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมันเพราะจะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลงตาม ในขณะที่บริษัทขายสินค้าภายใต้ ตราสินค้าของบริษัทเอง ทำให้มีการปรับราคาขายลงน้อยมาก ปัจจัยดังกล่าวจะยิ่งหนุนให้ผลการดำเนินงานยิ่งโดดเด่น นอกจากนี้ EPG ถือเป็น 1 ในบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม ซึ่งพิสูจน์ได้จากการเติบโตของยอดขายและกำไรที่พุ่งขึ้นส่วนทางกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา จากปัจจัยดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจในภาพการเติบโตระยะยาวของบริษัทอย่างมาก โดยคาดหมายการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิในช่วง 5 ปีข้างหน้าสูงถึงระดับ 36.5% ต่อปี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาดจะเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงกว่าระดับปัจจุบัน
  • AOT(โกลเบล็ก)เป้า Consensus เฉลี่ย 344 บาท คาดรายได้และกำไรเติบโตขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยสสท.คาดนักท่องเที่ยวปี 2558 เพิ่มขึ้น 13% เป็น 28 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ส่วนโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ผ่าน EIA แล้วคาดเปิดประมูลได้ภายในปี 59 ช่วยหนุนต่อรายได้และกำไรในอนาคตเนื่องจากจะรองรับผู้โดยสารได้ 85 ล้านคน/ปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ