ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาท/หน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปี รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 60 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ประมาณ 145 ล้านหน่วย/ปี และสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ถึง 75,000 ตัน/ปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 3.5 ล้านต้น
สำหรับกังหันลมที่ติดตั้ง ใช้กังหันลมยี่ห้อ GAMESA รุ่น G114 ขนาด 2 เมกะวัตต์ จากประเทศสเปน ซึ่งมีความสูง 125 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใบพัด 114 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นกังหันลมที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ติดตั้งทั้งหมดจำนวน 30 ต้น ประกอบด้วย โครงการซับพลูวินด์ฟาร์ม 1 ขนาด 8 เมกะวัตต์ ใช้กังหันลม จำนวน 4 ต้น,ซับพลูวินฟาร์ม 2 ขนาด 2 เมกะวัตต์ ใช้กังหันลมจำนวน 1 ต้น และ วายุวินด์ฟาร์ม ขนาด 50 เมกะวัตต์ ใช้กังหันลม จำนวน 25 ต้น
โดยมีการลงนามสัญญาจัดซื้อ จัดจ้าง ขนส่ง พร้อมติดตั้ง และทดสอบกังหันลมกับ บริษัท PowerChina Zhongan Engineering ซึ่งเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีชื่อเสียง พร้อมทั้ง ลงนามสัญญาบริการบำรุงรักษาและรับประกันความพร้อม สำหรับการเดินเครื่องกับ บริษัท Gamesa โดยบริษัทได้รับสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กับธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) เป็นที่เรียบร้อย
"ธุรกิจพลังงานลมนับเป็นอีกฐานธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กลุ่มบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เล็งเห็นความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายเพื่อจะช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และกระจายแหล่งเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่สะอาด เพื่อตอบสนองนโยบายของภาครัฐและความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของพลังงานลมบริษัทฯ ได้ดำเนินการศึกษา และพัฒนามานานกว่า 4 ปี ทำให้เชื่อมั่นในศักยภาพพลังงานลมว่าจะสามารถพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ได้ และจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้เครือ GUNKUL เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น"นางสาวโศภชา กล่าว