ขณะที่บริษัทคาดว่ารายได้จะพุ่งขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 52 โดยคาดหวังได้รับงานเหมืองโปแตชที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท
นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRC กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 59 แตะ 5,000 ล้านบาท เติบโต 40% จากปีนี้คาดรายได้ 3,600 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (backlog) แล้ว 6,800 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ปี 59 ราว 4,000 ล้านบาท ส่วนอีก 1-2 พันล้านบาท น่าจะหาเพิ่มได้เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในปี 59 บริษัทเตรียมยื่นประมูลงานกว่า 6 หมื่นล้านบาท เช่น งานวางท่อก๊าซเส้นที่ 5 ของ บมจ.ปตท.(PTT) โดยหวังจะได้งานมูลค่า ไม่ต่ำกว่า 8,000-10,000 ล้านบาท งานในส่วนของรถไฟฟ้าราว 3 สาย โดยเฉพาะสายสีเหลืองและสีชมพู มูลค่าลงทุนสายละ 25,000 ล้านบาท คาดว่าจะออกประมูลราวเดือน เม.ย.59 งานวางระบบของโรงงานยาสูบที่ย้ายจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ไปที่ จ.อยุธยา มูลค่างานรวม 7,000 ล้านบาท โดยบริษัทยื่นประมูลงานไปแล้ว 1,500 ล้านบาท คาดรู้ผลไตรมาส 1/59 ที่เหลือก็จะยื่นประมูลเพิ่มในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน อาจเป็นลักษณะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน มูลค่าโครงการขนาดใหญ่กว่า 35,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนเบื้องต้นราวไตรมาส 1-2/59
สำหรับความคืบหน้าการประมูลงานเหมืองโปแตซที่ จ.ชัยภูมิ มูลค่า 3.4-3.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลภายในเดือนนี้ ซึ่งหากได้รับงานดังกล่าวก็จะทำให้ backlog ของบริษัทเพิ่มเป็นมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ใน 3-4 ปี สอดคล้องกับที่ที่บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 62 ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
นายภาสิต ยังกล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมเงินลงทุนไว้กว่า 3,000 ล้านบาทในปี 59 จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเสนอขายหุ้นกู้ 2,500 ล้านบาท ซึ่งออกไปแล้ว 100 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยออกในปี 59 และมีเงินระดมทุนที่ได้รับจากการออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) อีกกว่า 600 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามแผนบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในเหมืองโปแตซเป็น 25% จาก 14% คาดการซื้อหุ้นจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 1/59 ปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ 0.8 เท่า หลังออกหุ้นกู้ครบ 2,500 ล้านบาท D/E น่าจะเกิน 1 เท่า ซึ่งก็ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ส่วนผลประกอบการในปี 58 คาดว่ารายได้รวมอยู่ที่ 3,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 15-16% พลาดจากเป้าเดิมที่คาดจะเติบโตได้ถึง 20% เนื่องจากงานบางงานได้เลื่อนไปเป็นปี 59 เช่น ปีนี้ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อเนื่อง งานที่เกี่ยวกับ Oil&gas ก็ถูกเลื่อนออกไป ถึงแม้รายได้พลาดเป้าแต่ในส่วนของกำไรสุทธิคาดสูงกว่าปีก่อนหรือทำสถิติสูงสุดใหม่ เพราะ 9 เดือน กำไรสุทธิ 206 ล้านบาท เกือบเท่าปี 57 ทั้งปีที่ 214 ล้านบาทแล้ว และปี 59 ก็คาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นตามรายได้
"ปี 58 รายได้พลาดเป้าเพราะงานหลายงานถูกเลื่อนไปปีหน้า เพราะราคาน้ำมันลดลง ส่วนงานไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าได้ก็อีก 2 ปี จึงจะมีรายได้เข้ามา ด้านงานก่อสร้างเหมืองแร่ทยอยรับรู้รายได้ใน 4 ปีนี้ และยังหวังงานรถไฟฟ้าสายต่างๆ อีก อย่างไรก็ตาม หลังปี 62 จุดโตของเราจะออกไปต่างประเทศ และอยากจะเป็นผู้ลงทุนมากขึ้น โดยหวังสัดส่วนรายได้จากการลงทุนราว 20-30% เพราะธุรกิจหลักของเรายังเป็นก่อสร้าง"นายภาสิต กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 59 บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่กว่า 15% จาก 9 เดือน เฉลี่ย 17.3%