(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนลดลง,น้ำมันฟื้นประคองหุ้นพลังงาน-จับตาประมูล 4G

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 15, 2015 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ จะมีความผันผวนลดลง หลังดัชนีหุ้นไทยร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวจะช่วยประคองการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานให้สามารถยืนทรงตัวได้ ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่คาดว่าจะพิจารณาการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Thailand Future Fund)ในวันนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด แต่ยังต้องจับตาการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ด้วย โดยมองแนวรับบริเวณ 1,260 และ 1,250 จุด ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,292 และ 1,300 จุด

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้จะมีความผันผวนและอยู่ในกรอบที่แคบลง หลังดัชนีปรับตัวลดลงมาติดต่อกัน ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้หลังราคาน้ำมันกระตุกขึ้นบ้าง แต่ตลาดยังคงติดตามความชัดเจนในการประชุมเฟดระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค.ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามการประชุมครม. ที่คาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างให้สามารถทรงตัวได้ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นก็น่าจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานไม่ปรับลดลงและสามารถประคองตัวได้ รวมถึงยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ถึงการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ในวันนี้ หลังก่อนหน้านั้นตลาดมีความกังวลเรื่องราคาใบอนุญาตที่สูงขึ้นจะกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ

ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้จะมีไม่มากเหมือนเมื่อวานนี้ที่มีการขายสุทธิในระดับมากกว่า 3 พันล้านบาท หลังมองว่าการปรับพอร์ตสำหรับหุ้นธ.กรุงเทพ(BBL) น่าจะหมดลงแล้ว ประกอบกับการปรับลดลงของดัชนีหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ทำให้ downside จำกัด โดยมองแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ 1,260 และ 1,250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,292 และ 1,300

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(14 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,368.50 จุด พุ่งขึ้น 103.29 จุด (+0.60%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,952.23 จุด เพิ่มขึ้น 18.76 จุด (+0.38%) ,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,021.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด (+0.48%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 14.38 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.54 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 94.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 34.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 6.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.14 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 ธ.ค.58) 1,267.61 จุด ลดลง 13.31 จุด(-1.04%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,236.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 ธ.ค.58) ปิดที่ 36.31 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 ธ.ค.58)ที่ 10.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.08/10 แนวโน้มอ่อนค่า จากแรงกดดันดอลล์แข็งรับเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย
  • ธปท.ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ธปท. เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนของเงินสำรองระหว่างประเทศให้รวมตราสารทุน หรือการลงทุนในหุ้น ซึ่งผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว แต่มีความห่วงใยว่าจะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงหรือการนำเงินไปตั้งกองทุนเพื่อการลงทุน เช่น กองทุนเพื่อความมั่งคั่งนั้น เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง ธปท.ขอชี้แจงว่า การเสนอเพิ่มประเภทสินทรัพย์ให้รวมถึงตราสารทุน เป็นการขยายขอบเขตการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ที่กว้างขึ้นกว่าในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการบริหารความเสี่ยงของเงินสำรองระหว่างประเทศ ไม่ใช่เสนอจัดตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่น
  • นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการภารกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือถึงบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดลงวันที่ 30 ก.ย.ถือว่าสิทธิการใช้คลื่นได้สิ้นสุดลงตามแผนแม่บทคลื่นความถี่ให้ กสทช.นำไปจัดสรรใหม่ หรือปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ทำให้ข้อกังวลการประมูลคลื่นความถี่ ทำให้ข้อกังวลการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ วันที่ 15 ธ.ค.นี้ กสทช.สามารถดำเนินการได้
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศสนใจเข้าร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายแล้ว 78 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถเข้าไปลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหลังจากการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 5 จะมีการประชุมคณะกรรมการย่อยของทั้ง 2 ประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่เมียนมา ก่อนจะประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวเป็นครั้งที่ 6 ต่อไป
  • "เจบิค" ร่วมลงทุนใน "เอสพีวี" ไทย-เมียนมา หวังพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจทวายหนุนพัฒนาเต็มพื้นที่รวม 270 ตารางกิโลเมตร ทั้งท่าเรือน้ำลึก-นิคมอุตสาหกรรม ขณะที่ญี่ปุ่นขอทบทวนแผนแม่บทลงทุนใหม่ คาดแล้วเสร็จ ม.ค.59
  • นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในปี 2559-2560 รฟม.จะเปิดประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 8 โครงการ รวมระยะทาง 148.3 กม. วงเงินก่อสร้าง 4.64 แสนล้านบาท และจะคัดเลือกเอกชนมาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อท่าพระ ให้ได้ภายในปี 2559
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ธ.ค. 2558 คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณา พ.ร.บ.กองทุนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และมีผลบังคับใช้ในไม่ช้านี้
*หุ้นเด่นวันนี้
  • TU(เคทีบีฯ)แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 22.40 บาท/หุ้น โดยมองการประกาศยกเลิกเข้าซื้อกิจการบัมเบิ้ลบี เป็นบวกต่อ TU เนื่องจากประเด็นการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวสร้าง sentiment เชิงลบต่อ TU มาตลอดทั้งปี ขณะที่คาดกำไรในไตรมาส4/58 จะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากการอ่อนตัวของราคาทูน่าตามฤดูกาลและฐานของการควบรวมกิจการที่รับเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคาดกำไรปีนี้ยังเติบโตได้โดดเด่นอยู่ที่ระดับ 15% YoY จากการดำเนินธุรกิจหลักที่ยังแข็งแกร่งและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ปีหน้ากำไรปกติมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่า 25.5% YoY
  • TISCO(ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 42.70 บาท โดยมองสินเชื่อเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่ม 0.14% M-M การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อส่วนใหญ่มาจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่ม Utility ส่วนสินเชื่อที่ให้กับผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ยังหดตัวและฉุดการเติบโตของสินเชื่อรวม โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q15 น่าจะทรงตัว Q-Q ที่ 800 ล้านบาท เพราะน่าจะยังตั้งสำรองฯมากกว่าระดับปกติต่อ แต่เชื่อว่าไม่กระทบการจ่ายปันผลซึ่งคาด 2 บาทต่อหุ้น (จ่ายปีละครั้ง) คิดเป็น Yield 5%
  • BBL (เคจีไอฯ)ให้เป้าพื้นฐาน 195 บาท โดยมองราคาหุ้นปรับลงจนเข้าเขต "Oversold" (เปิดแก๊ปหลุดกรอบ Bollinger band และ RSI 20) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร" ต่อจากวานนี้ ประเมินแนวรับ 144 บาท (สำหรับนักเก็งกำไรสั้น ถ้าต่ำกว่า 144 บาท แนะนำ Stop loss) แนวต้านแรก 150 บาท และถัดไปที่ 154 บาท และ Valuation ถูก PBV 0.78 เท่า ขณะที่คาด ROE >10%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ