ขณะที่คาดกำไรสุทธิ ปี 59 จะดีกว่าปีนี้ เป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น จากที่ผ่านมาได้มีการลงทุนในส่วนของโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี จำนวน 400 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะสร้างรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท และจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 60 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์
โรงพ่นสีดังกล่าวมีกำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) คิดเป็นยอดขาย 500-600 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับประเภทชิ้นงานที่ผลิตว่าเป็นชิ้นงานขนาดใหญ่หรือเล็ก โดยโรงพ่นสีดังกล่าวจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท ซึ่งตั้งเป้าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นในปี 59 ที่ 16% และในปี 60 เพิ่มเป็น 17% หรืออยู่ในระดับปกติ จากคาดว่าจะอยู่ที่ 13-14% ในปีนี้
"อนาคตธุรกิจโรงพ่นสีและชิ้นส่วนยานยนต์จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้รวมของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต และทำให้สัดส่วนรายได้ในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 30-35% ของรายได้รวม จากเดิมอยู่ที่ 20-25% ของรายได้รวม"นายวิวรรธน์ กล่าว
นายวิวรรธน์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการเจรจาลูกค้าในประเทศจีน 1-2 ราย เพื่อรับงานผลิตบรรจุภัณฑ์ มูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/59 หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการทดลองระบบเครื่องจักร ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยคาดต้นปี 60 ก็น่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันที ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆอีก โดยมีความสนใจประเทศในกลุ่มอาเซียน แต่อย่างไรก็ตามจะเน้นตลาดประเทศจีนเป็นหลักก่อน
"ปีหน้าเป็นอีกปีที่โตอย่างประคองตัว โดยแพ็คเกจจิ้งอื่นๆก็ยังคงเติบโตได้อย่างปกติ จากเชื่อว่าการขยายตัว GDP ของประเทศก็คงจะไม่เลวร้าย และยานยนต์ไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้ การส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์ก็ยังคงมีการส่งมอบและรับมอบปกติ โดยเราตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 8-10% และกำไรสุทธิก็น่าจะดีกว่าปีนี้"นายวิวรรธน์ กล่าว
นายวิวรรธน์ กล่าวด้วยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ อ้างอิงจากข้อมูลสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ประเมินว่า แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในปี 59 จะเติบโต 3-4% สอดคล้องกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3-3.5% โดยคาดยอดผลิตรถยนต์จะอยู่ที่ 2 ล้านคัน เป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 7.8 แสนคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1.2 ล้านคัน ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าการเติบโตของธุรกิจในปีหน้าก็จะเป็นไปตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตได้ 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท และกำไรสุทธิน่าจะทำได้ไม่น้อยกว่าปีก่อนที่มีกำไร 35.49 ล้านบาท โดยมองแนวโน้มไตรมาส 4/58 จะดีกว่าไตรมาส 3/58 จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ลูกค้ามีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น และธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ก็ได้รับผลดีจากค่ายรถยนต์ที่เริ่มทยอยออกโมเดลใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกรถยนต์มีการเติบโตสูงถึง 100% ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือกว่า 200 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด ประกอบกับต้นทุนของโรงพ่นสีดีขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมเติบโตขึ้นได้