ทั้งนี้ GPSC ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์การเติบโต ขยายโครงการทั้งในและต่างประเทศ ไร้ผลกระทบจากเศรษฐกิจที่กำลังผันผวนจากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบโลก ซึ่งปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง มั่นใจธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคเป็น Mega Trend ของโลกในปัจจุบัน เนื่องจากรายได้แน่นอน สัญญาซื้อขายระยะยาว จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจผันผวน
“GPSC เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงแม้ในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน เนื่องจากประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่มีสัญญาซื้อขายระยะยาว 15-25 ปีกับลูกค้าของเรา ทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นหน่วยงานภาครัฐและอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคง ซึ่งทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ที่แน่นอน รวมทั้งยังมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการขยายธุรกิจให้เติบโตทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีเป้าหมายในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยกำหนดเป้าหมายระยะสั้น ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มจากปัจจุบันอีก 600–1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 62 ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของบริษัท ด้วยเหตุนี้ GPSC จึงเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ตอบรับกับกระแสการลงทุนของโลกในปัจจุบัน"นายเติมชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการล่าสุดงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 กำไรเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และผลประกอบการไตรมาส 3/58 มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/58 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ประกอบกับความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ที่ลงทุนและพัฒนาทั้งในและต่างประเทศซึ่งยังคงขยายตัวและเติบโตตามแผนงาน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ระยะสั้น ในการเข้าลงทุนในกิจการที่พร้อมปฏิบัติการและที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าหากโครงการเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนในอนาคตระยะยาว GPSC ก็จะเน้นในการลงทุนในโครงการใหญ่ และโครงการเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงในการขยายตัวและเติบโต