สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ขยายโครงการและใช้ในการหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ ประมาณ 947 ล้านบาท และ 300 ล้านบาทตามลำดับ
สำหรับ บมจ.อมตะ วีเอ็น เป็น Holding Company ที่ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อยฯโดยถือหุ้น 89.99% ในอมตะ เวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทผู้ประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องชั้นนำในประเทศเวียดนาม โดยมีความเชี่ยวชาญการพัฒนาที่ดินในเวียดนามกว่า 20 ปี จึงได้รับความเชื่อถือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งสินค้าหลักของบริษัทฯ ได้แก่ พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม พื้นที่เชิงพาณิชย์ โรงงานสำเร็จรูปให้เช่า สำนักงานให้เช่า และการให้บริการสาธารณูปโภคแก่ผู้ซื้อที่ดินและผู้เช่าโรงงานสำเร็จรูป โดยนิคมอุตสาหกรรม AmataCity (Bien Hoa)ที่ดำเนินการภายใต้บริษัทฯ นั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 4,375 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเศรษฐกิจการค้าของภาคใต้ใกล้ศูนย์กลางจุดยุทธศาสตร์การขนส่งทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศและอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของเวียดนามเพียง 30 กิโลเมตร จึงทำให้นิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวมีความโดดเด่นและได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาตั้งฐานการผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปขยายธุรกิจพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมระดับพรีเมี่ยมในประเทศเวียดนาม ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ โดยเฉพาะแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะ แห่งที่ 2 ในเมืองลองถั่น จังหวัดดองไน ในเวียดนาม ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณกว่า 8,031 ไร่เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทคและพื้นที่พาณิชย์กรรม ที่พักอาศัย ซึ่งจะเริ่มพัฒนาในปี 2559 คาดว่าจะสามารถขายและรับรู้รายได้ภายในปี 2560 โดยในส่วนของการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนามในไตรมาส 2 ปี 2559 โดยจะเริ่มพัฒนาและขายพื้นที่ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งอมตะวีเอ็นจะเป็นผู้บริหารโครงการและลงทุนด้านสาธารณูปโภค อาทิ ระบบประปา ไฟฟ้า ถนน เป็นต้น
"เรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่ดินในเวียดนามมากว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศเวียดนามเป็นจำนวนมาก ให้ความสนใจเข้ามาซื้อที่ดินและเช่าโรงงานสำเร็จรูปเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตสินค้าป้อนความต้องการของตลาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดีรวมถึงแนวทางการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน"นางสมหะทัย กล่าว
ด้านนางสาววรดา ตั้งสืบกุล รองผู้จัดการใหญ่ สายวาณิชธนกิจ 1 ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญตลอด 20 ปี ในอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมในระดับพรีเมี่ยมของ AMATAV จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนตลอดจนเศรษฐกิจของเวียดนามที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง จะผลักดันให้นิคมอุตสาหกรรมมีการเติบโตตามเศรษฐกิจของเวียดนามไปด้วย มั่นใจว่า AMATAV เป็นหุ้นที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอและจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า จากเสนอขายหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ถือว่า AMATAV ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งมีความเชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทฯ และจากจุดเด่นของนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท ทั้งทำเลที่ตั้ง ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้ จะทำให้ AMATAV เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่ดีพร้อมกับเป็นหุ้นปันผลที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน
บล.ฟินันเซีย ไซรัส และบล.โนมูระ พัฒนสิน วิเคราะห์ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามยังคงขยายตัวต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเวียดนามได้รับคะแนนความน่าลงทุนเป็นอันดับ 7 ของเอเชีย ในแง่ของ Economic Growth สูงกว่าคู่แข่งอย่างไทยที่อยู่ในอันดับที่ 11 และอินโดนีเซียที่อันดับ 13 จากการจัดอันดับของ Michigan State University ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามที่ได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวด้านการลงทุนจากนักลงทุนในเวียดนามและต่างประเทศที่เข้าไปลงทุนเพื่อใช้ประเทศเวียดนามเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งในอาเซียน เอเชีย อเมริกาและยุโรป
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้ประเมินมูลค่าหุ้นของ AMATAV ในฐานะที่เป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ในประเทศเวียดนาม รวมทั้งประเมินผลประกอบการที่ผ่านมา ด้วยวิธีคิดส่วนลดจากกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow: DCF) บนสมมติฐานต้นทุนเฉลี่ย (WACC) 12.12% จึงได้ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 2016 ที่ 10.40 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E 20.4 เท่า แม้ว่าจะสูงกว่าผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมในภูมิภาค แต่คาดว่าอัตรากำไรเติบโตของ AMATAV ในปี 2015 และปี 2016 จะสูงถึง 217% และ 20% สูงกว่าภูมิภาคที่โตเฉลี่ยที่28% และ 17.3% ตามลำดับทั้งยังมีอัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ รวมถึงอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ (ROA) ที่สูงกว่า มูลค่าดังกล่าวจึงเป็นราคาที่เหมาะสม
AMATAV ถือเป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแผนการลงทุนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรม และเป็นธุรกิจพื้นฐานที่สำคัญ ของประเทศเวียดนาม ซึ่งแน่นอนว่า จะมีผลที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับเศรษฐกิจของเวียดนามในเวลานี้ เพราะเวียดนาม อยู่ระหว่างการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระบบสาธารณูปโภค และการวางระบบขนส่งขนาดใหญ่ของประเทศ ทั้งท่าเรือ สนามบินนานาชาติ และระบบโครงข่ายถนน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามท่ามกลางตลาดหุ้นที่ผันผวนในปัจจุบัน ฝ่ายวิเคราะห์ มองว่าเป็นผลระยะสั้นที่เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม AMATAVยังเป็นหุ้นเป็นทางเลือกของนักลงทุนในช่วงนี้ได้ ด้วยการที่ AMATAVเป็นหุ้นที่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่อิงกับเศรษฐกิจเวียดนามโดยตรง