ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีหน้าจะเติบโตราว 50% จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้กว่า 600 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 854.09 ล้านบาท เป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น รถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น รวมถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการภาคเอกชนที่จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะส่งผลดีต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
นายเชนินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนเครื่องจักร จำนวน 160 ล้านบาทไปแล้ว ส่งผลทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตในปีหน้าเพิ่มเป็น 62,000 ตันต่อปี และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 74,000 ตันต่อปีในปี 60 ซึ่งมองว่าจากการลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับออเดอร์เข้ามาได้อย่างมาก
บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องในกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะลาว กัมพูชา และ พม่า ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นรูปแบบของการแต่งตั้งตัวแทนการจัดจำหน่ายเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 12% ในปี 59, 19% ในปี 60 และ 23% ในปี 61 จากปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2% โดยคิดเป็นยอดการสั่งซื้อประมาณ 50 ตันต่อปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ามายหากยอดการสั่งซื้อถึงระดับ 1,000-2,000 ตันต่อปีอาจจะพิจารณาสร้างโรงงานในต่างประเทศ ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของ PC wire ว่าจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
"ปีนี้ยอมรับว่ารายได้น่าจะต่ำกว่าปีก่อน และยังคงขาดทุนต่อเนื่อง เนื่องด้วยปัจจัยจากเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว และการลงทุนของภาครัฐที่ชะลอตัวออกไปเช่นกัน ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ประกอบการเอกชน ก็ไม่มีการลงทุนใดๆเกิดขึ้น หรือน้อยลงกว่าเดิม แต่ปีหน้าเราคาดว่าจะเติบโตได้ 50% และกลับมามีกำไรได้ จากโครงการภาครัฐต่างๆที่มีออกมามากขึ้น และเราก็น่าจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย ประกอบกับเราจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้น ในประเทศที่ได้เข้าไปแล้ว หลังประเทศเหล่านั้นก็เริ่มมีการลงทุนออกมา"นายเชนินทร์ กล่าว