(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าเปิดบวกแต่อาจขึ้นจำกัด เล็งแรงหนุนจากตลาดตปท.ที่สดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 16, 2015 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเปิดในแดนบวกได้ แต่การปรับตัวขึ้นอาจเป็นไปอย่างจำกัด โดยอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา เนื่องจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯได้ปรับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อของหุ้นในกลุ่ม ICT

อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงได้รับแรงหนุนจากตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรที่สดใสเป็นตัวชี้นำ แม้แต่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนบวกราว 1% และราคาน้ำมันก็ยังรีบาวด์ต่อด้วย

ดังนั้นแนวโน้มตลาดบ้านเรายังเป็นบวก อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังคงเฝ้ารอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในคืนนี้ ซึ่งถ้าวันนี้ดัชนีฯสามารถยืนได้ที่ 1,300 จุด ดัชนีฯก็มีโอกาสที่จะไปต่อ พร้อมให้แนวต้านที่ 1,320 จุด ส่วนแนวรับ 1,280 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(15 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,524.91 จุด พุ่งขึ้น 156.41 จุด(+0.90%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,995.36 จุด เพิ่มขึ้น 43.13 จุด(+0.87%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,043.41 จุด เพิ่มขึ้น 21.47 จุด(+1.06%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 302.30 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 283.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 70.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.00 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(15 ธ.ค.58)1,300.51 จุด เพิ่มขึ้น 32.90 จุด(+2.60%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,374.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(15 ธ.ค.58) ปิดที่ 37.35 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(15 ธ.ค.58)ที่ 9.20 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.97 นลท.รอติดตามผลประชุมเฟด-แนวทางหลังขึ้นดบ.ครั้งแรก
  • ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2558 มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย(ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์) วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อระดมเงินมาใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ
  • การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ในระบบ 4จี ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 895-915 MHz/940-960 MHz จำนวน 2 ชุด ชุดละ 2x10 MHz แบ่งเป็น ชุดที่ 1 ช่วงคลื่น 895-905 MHz/940-950 MHz จำนวน 10 MHz ชุดที่ 2 905-915 MHz/950-960 จำนวน 10 MHz ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เวลา 09.00 น. ยังมีการเคาะราคาสู้กันอย่างต่อเนื่อง
  • นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นเดือน ธ.ค. 2558 และช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ซึ่งประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรในระดับสูงกว่าปกตินั้น ธปท. ประมาณการว่า ธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลปีใหม่ มูลค่าสุทธิประมาณ 1.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.5%
  • ชง 'อาคม' เร่งแก้ปัญหาสายการบินโลว์คอสต์ทุนต่างประเทศ จำหน่ายตั๋วโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ทำตลาดป่วน จนกระทบสายการบินไทยและต่างชาติ ร้องให้บังคับใช้มาตรการกำหนดราคาจำหน่ายตั๋วโดยสารขั้นต่ำ ฝ่าฝืนลงโทษสูงสุดถอนใบอนุญาต ห่วงกระทบความเชื่อมั่นลงทุนไทย
*หุ้นเด่นวันนี้
  • AMATAV (บมจ.อมตะ วีเอ็น)เทรดวันนี้วันแรก บนกระดานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าเหมาะสมปีหน้า 10.40 บาท (DCF) โดยมีราคาขาย IPO 7.50 บาท/หุ้น สำหรับกำไรสุทธิในปี 2015-16 คาดเติบโต 217% และ 20% ตามลำดับ

AMATAV เป็น Holding company ที่ถือหุ้น 89.99% ในอมตะเวียดนามซึ่งทำนิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในเวียดนาม มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในจังหวัดดองไนซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการปัจจุบัน มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่ดินในเวียดนามมานานกว่า 20 ปี รายได้หลักของบริษัทมาจากการขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม พื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป และค่าบริการสาธารณูปโภคแก่ผู้ซื้อที่ดินและผู้เช่าโรงงานสำเร็จรูป บริษัทมีแผนขยายอีก 2 โครงการคือ High Tech Industrial Park และ Service Township ซึ่งคาดรายได้เข้าในปี 2017-18

  • ECL(เคทีบี)จับกระแส ประชุม กนง.ในวันนี้ ถ้ามีการลดดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่ 1.5% จะเป็นบวกกับกลุ่มที่ทำธุรกิจเช่าซื้อ โดย ECL ทำธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 14.03 ล้านบาท (+31.86% QoQ ; +3.46% YoY) ส่วนการร่วมทุนกับ บริษัท พรีเมี่ยมไฟแนนซ์ เซอร์วิส จำกัด หรือ PFS (บริษัทสินเชื่อรถยนต์และการรับประกันชิ้นส่วนรถยนต์มือสอง มีขนาดสินทรัพย์ติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น) ที่จะเข้ามาถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 25% เพื่อเข้ามาสนับสนุนฐานเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการ Business Due Diligent คาดว่าจะทราบผลใน Q4/58 ซึ่งการเปลี่ยนโครงสร้างครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลประกอบการของบริษัทฯ ต้นปี 2559 คาด ECL จะเริ่มเดินหน้าธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์
  • CPF(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 25 บาท หลังจากราคาหุ้นลดลงต่อเนื่องมาที่ระดับ -0.5 SD ของ Average PER อีกทั้งธุรกิจกุ้งมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากต้นทุนคงที่ลดลงและปริมาณการผลิตกุ้งเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจไก่และหมูในประเทศคาดว่าจะมีผลประกอบการดีขึ้นจากราคาขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีความขัดแย้งระหว่างตุรกีและรัสเซียคาดว่ามีผลจำกัด กำไรในรัสเซียมีแนวโน้มเติบโตจากการรวม S&W เข้ามาเต็มปี ประกอบกับราคาหมูและไก่ในรัสเซียยังทรงตัวในระดับสูง
  • KTB(โกลเบล็ก)เป้า 21 บาท/หุ้น คาดกำไรปี 58 ที่ 2.9 หมื่นลบ. (-10%) จากเป้าสินเชื่อขยายตัวขึ้น 6-7% เน้นสินเชื่อ SME เพื่อให้ NIM > 2.6% , รักษา NPL อยู่ที่ระดับ 2.3% ,ตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเป็น 700 ลบ./เดือน ฐานการเงินแข็งแกร่งจาก Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 132% และได้ประโยชน์จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐเนื่องจากมีสินเชื่อภาครัฐสัดส่วนสูงและการเปิดประมูลก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ อีกทั้ง AQ(เดิม KMC) ศาลฯสั่ง KMC จ่ายคืนหนี้ 1 หมื่นลบ.คืนให้ KTB
  • การประมูล 4G ยังเดินต่อ ล่าสุดก่อนหยุดพักช่วง 6.00น. ราคาอยู่ที่ใบอนุญาตละ 31,862 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงของคลื่นเกือบเท่าตัว และตามข่าวระบุว่ามีผู้ใช้สิทธิ waive แล้ว 2 ครั้ง หากการประมูลลากยาวถึงเที่ยงวันนี้ ราคาประมูลจะไปถึง 3.5 หมื่นล้านบาทต่อใบอนุญาตซึ่งเป็นราคาที่ตลาดคาดไว้ และถ้าการแข่งขันยังไม่มีทีท่าชะลอความร้อนแรง หุ้นกลุ่มนี้อาจกลับมาสร้างความกังวลให้ตลาดและมีโอกาสเห็นแรงขายหลังราคาหุ้นปรับขึ้นราว 10% วานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังชอบ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 270 บาท) มากที่สุดไม่เปลี่ยนแปลง(ฟินันเซีย ไซรัส)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ