K มั่นใจเทรด 18 ธ.ค.ตอบรับดี ธุรกิจโตได้อีกมาก ตลาดกลับมายืนแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 16, 2015 17:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ (K) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าหุ้น K ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 18 ธ.ค.58 เป็นวันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายในมีการเติบโตทุกปี และบริษัทเน้นงานในระดับไฮเอ็นด์ที่มีคู่แข่งน้อย

บริษัทประเมินว่าในปี 59 ธุรกิจค้าปลีกจะเติบโต 28% โดยจะมีพื้นที่ค้าปลีกขยายเพิ่มขึ้น 2 ล้าน ตร.ม.จากปัจจุบัน 7 ล้าน ตร.ม.ซึ่งบริษัทเชื่อว่าธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายในจะเติบโตตาม จึงตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ทิศทางเดียวกัน เนื่องจากจะมีห้างสรรสินค้าเปิดใหม่เพิ่มขึ้น และมีการปรับปรุงสาขาเดิม รวมทั้งศูนย์การค้าขนาดย่อมในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ที่จะเพิ่มขึ้น

นายชยวัฒน์ กล่าวว่า รายได้ในปี 59 น่าจะแตะ 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 58 ที่คาดรายได้ที่ 950 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้แล้ว 651 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4/58 ปกติรายได้จะมากกว่าทุกไตรมาส และในอีก 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% ทุกปีตามธุรกิจค้าปลีก

สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนราวเกือบ 300 ล้านบาทในครั้งนี้ จะนำไปลงทุนขยายโรงงานใหม่ 4 แห่งที่ รังสิต-นครยายก โดยซื้อเครื่องเข้า 2 โรงก่อน ใช้เงินราว 50 ล้านบาท อีก 50 ล้านบาท ลงทุนต่อเนื่องจากที่เปิดออฟฟิศในประเทศเมียนมาร์ไปแล้ว และอีก 100 กว่าล้านบาท ชำระหนี้เงินกู้ ปัจจุบันมีหนี้ระยะสั้น 120-130 ล้านบาทที่กู้มาลงทุนโรงงาน 2 แห่งแรกที่ อ.ลำลูกกา คลอง 6 จ.ปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)1.2 เท่า หลัง IPO มีการชำระหนี้แล้ว D/E จะลดลงอย่างมาก แทบไม่เหลือ

ทั้งนี้ โรงงาน 2 แห่งจะซื้อเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งได้ราวไตรมาส 2/59 และหลังติดตั้งเครื่องจักรครบทั้ง 4 แห่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว รองรับการขยายงานได้อีก 5 ปี โดยโรงงานแห่งใหม่จะผลิตเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป (พรีแฟบ) เพื่อนำไปใช้ในงานตกแต่งบูธแสดงสินค้า

"เดิมเรารับงานได้ 4 ช็อป/ห้างสรรพสินค้า หลังขยายโรงงานผลิตเพิ่มคาดรับงานได้ 8-10 ช็อป ก่อนจะเพิ่มเป็น 1 ช็อปในอนาคต แนวโน้มธุรกิจยังมีช่องทางโตได้อีกเยอะ"นายชยวัฒน์ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 30 แบรนด์ดัง เช่น ยูนิโคล MNG MARKS&SPENCER และผู้จัดการงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ เช่น มอเตอร์โชว์ มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ มันนี่เอ็กซ์โปร์ รวมไปถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ และ TCC แลนด์ เป็นต้น

สำหรับสัดส่วนรายได้เป็นออกแบบและตกแต่งภายใน 50% ออกแบบบูธงานแสดงสินค้า 40% และงานอีเว้นท์ 8% รายได้ส่วนใหญ่มาจากงานภาคเอกชน 99% บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 20-25% หากเป็นงานตกแต่งภายจะในอยู่ที่ 20% บูธแสดงสินค้า 25% และมีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยที่ 6.5% แต่หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วมีการขยายโรงงานใหม่การผลิตเพิ่มขึ้น ชำระหนี้เงินกู้ ดอกเบี้ยลดลง จะทำให้อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น ซึ่งปี 59 ก็คาดว่าจะสูงกว่าปีนี้ที่ 6.5%

นายชยวัฒน์ กล่าวถึงการขยายการลงทุนในประเทศเมียนมาร์ เป็นการรับงานออกแบบและตกแต่งร้านค้าของแบรนด์ชั้นนำในห้างสรรพสินค้า โดยปี 58 คาดรายได้อยู่ที่ 6.6 ล้านบาท ปี 59 น่าจะเพิ่มเป็นกว่า 20 ล้านบาท จากฐานลูกค้าที่ดีขึ้น ตลาดดีขึ้น การก่อสร้างศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเริ่มเสร็จก็จะมีงานตกแต่งภายใน นอกจากนี้ ยังมองโอกาสการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เป็นต้น

"ในพม่าเตรียมความพร้อมเปิดออฟฟิศ วางรากฐานมา 2 ปี วางตลาด คอนเนคชั่นพร้อม ถ้าตลาดมาก็เดินหน้าเต็มที่ ถ้าตลาดพร้อมก็ขึ้นโรงงานได้"นายชยวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท คือ Kingsmen Creatives ประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันถือสัดส่วน 20% หลัง IPO เหลือถือ 10%

ส่วนผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง และที่ผ่านมาบริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น 80% จากนโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ ส่วนปี 58 ต้องรอดูการลงทุนและความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อการขยายธุรกิจ

นายสันทัด สงวนดีกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน K เปิดเผยว่า ไม่กังวลการเข้าเทรดเพราะวันนี้ตลาดหุ้นไทยดีดกลับมายืนเหนือ 1,300 จุด ซึ่งเป็นฐานที่แข็งแกร่ง

"บ้านเราราคาน้ำมันที่ลดลง จะส่งผลดีต่อธุรกิจการบิน การท่องเที่ยวก็จะดี คนเดินศูนยฺการค้ามากขึ้น ขณะที่เราเข้าเทรดใน mai ยอดขายเราไม่ถึง 1000 ล้านบาท การเติบโตยังไปได้อีกมาก ไม่เหมือนกับ SET ที่น้ำหนักอยู่ที่กลุ่มพลังงานที่กดดันภาพรวมตลาดอยู่ อย่างไรก็ตาม อยากให้มองหุ้น K เป็นหุ้น growth stock มากกว่าเป็นหุ้นปันผล"นายสันทัด กล่าว

ทั้งนี้ K เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น โดยเป็นหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 50 ล้านหุ้น และอีก 10 ล้านหุ้นเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมคือ Kingsmen Creatives เสนอขายให้กับประชาชนที่ราคาหุ้นละ 5.80 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ