(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ แม้ตปท.บวกแต่เจอกลุ่มพลังงาน-สื่อสารกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 17, 2015 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ แม้ว่าตลาดต่างประเทศจะเป็นบวกก็ตามจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดที่ 0.25% แต่มีข้อดีตรงที่มีการปรับมุมมองเศรษฐกิจปีหน้าดีขึ้น และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ไม่แรงในครั้งต่อ ๆ ไป ส่งผลให้ตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวกด้วย

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ และการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ที่ยังไม่ยุติ ทำให้ระดับราคาประมูลขึ้นไปเฉียดแสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่ทุกสำนักได้คาดการณ์ไว้ จึงอาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มสื่อสารได้ แต่ทั้งนี้อาจเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ได้ประโยชน์ในแง่ของการปล่อยกู้

พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,290 จุด ส่วนแนวต้าน 1,310-1,320 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(16 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,749.09 จุด พุ่งขึ้น 224.18 จุด(+1.28%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,071.13 จุด เพิ่มขึ้น 75.77 จุด(+1.52%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,073.07 จุด เพิ่มขึ้น 29.66 จุด(+1.45%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 314.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.66 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 29.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.78 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.83 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 139.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.44 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 ธ.ค.58)1,299.12 จุด ลดลง 1.39 จุด(-0.11%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 560.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 ธ.ค.58) ปิดที่ 35.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 4.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 ธ.ค.58)ที่ 9.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.96 หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปตามตลาดคาด ยังรอผล BOJ
  • การประมูลคลื่น 900 MHz ในระบบ 4จี ของยักษ์ใหญ่ค่ายมือถือ 4 ราย ยังคงสู้ราคากันดุ จนถึงช่วงพักการประมูลเวลา 21.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. 2558 โดยราคาในรอบที่ 90 คลื่นล็อตที่ 1 ราคา 41,844 ล้านบาท คิดเป็น 260.22% ของมูลค่าคลื่นความถี่ ล็อตที่ 2 ราคา 43,454 ล้านบาท คิดเป็น 270.24% ของมูลค่าคลื่นความถี่ รวมราคาสูงถึง 85,298 ล้านบาท ทำสถิติสูงกว่าคลื่น 1800 MHz ที่ประมูล 2 ใบอนุญาต ราคารวม 80,778 ล้านบาท
  • บอร์ด กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% ในการประชุมครั้งสุดท้ายปีนี้ เผยปี 58 มีโอกาสเศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงกว่าประมาณการเดิม 2.7% แต่ปี 59 ยังคงใกล้เคียงเดิม 3.7% ชี้นโยบายการเงินยังมีพื้นที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม พร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายดูแล คาดเงินเฟ้อกลับเป็นบวกครึ่งแรกปี 59
  • "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 17 ธ.ค.นี้ จะประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 4 โดยมีนายหวางหย่ง มนตรีแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานฝ่ายจีน
  • นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ธปท.จะแถลงรายละเอียดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2559 โดยคาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าในปีนี้ ซึ่ง ธปท.เคยประเมินไว้ที่ 3.7%
  • ซิตี้กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจลดลงไปเหลือระดับ 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังอิหร่านพ้นจากการคว่ำบาตรและเพิ่มกำลังการผลิต ประกอบกับผู้ผลิตน้ำมันยังเดินหน้าผลิตจนเต็มคลังน้ำมันดิบในแต่ละประเทศ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 จะเป็นการบีบให้ผู้ผลิตปรับลดกำลังการผลิต

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MINT(โกลเบล็ก)เป้า Consensus สูงสุด 42 บาท คาดรายได้และกำไร 4Q15 – 1Q16 โดดเด่นจาก High Season การท่องเที่ยว และร้านอาหารที่เติบโตขึ้น และมีปัจจัยหนุน 4Q15 คาดมีรายได้จากการขายโรงแรม รวมถึงบันทึกกำไรการซื้อโรงแรมกลุ่ม Tivoli 7 โรงแรม (บราซิล 2 แห่ง โปรตุเกส 5 แห่ง)อีกทั้งยังอยู่ระหว่างทำดีลซื้อกิจการโรงแรม Tivoli อีก 7 แห่ง
  • CENTEL(ซีไอเอ็มบี)"ซื้อ"เป้า 46.50 บาท เชื่อจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากสถิตินักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งของไทยในปีนี้และปีหน้า ในขณะที่ยังมีปัจจัยหนุนระยะสั้นอีกจากดีลเจรจาเข้าซื้อกิจการ KFC จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Yum ที่ประกาศขายสาขา KFC 120-150 สาขาให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์รายใหม่ โดยประเมินหาก Centel สามารถซื้อสาขาร้าน KFC 120-150 สาขาจาก Yum ที่ราคา 8x ของ EBITDA รายได้ของบริษัทในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันล้านบาท (+14% จากประมาณการในปัจจุบันที่ 2.13 หมื่นล้านบาท) และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13% เป็น 2.5 พันล้านบาท (1.84 บาทต่อหุ้น) จากปัจจุบัน 2.2 พันล้านบาท (1.63 บาทต่อหุ้น) อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรับเพิ่มประมาณการของ Centel เนื่องจากดีลนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่หากบริษัทชนะประมูล ราคาเป้าหมายจะเพิ่มขึ้น 13% เป็น 52.5 บาท
  • PLANB(เคทีบี)เป้าเฉลี่ย IAA Consensus 7.25 บาท โดย"นีลเส็น"รายงานตัวเลขสื่อโฆษณาเดือน พ.ย. ของกลุ่ม Outdoor ที่ 377 ล้านบาท สูงขึ้น 13.5% YoY และ 8.0% MoM ขณะที่ตัวเลข 11 เดือน แรก โต 6.5% ยอดการโฆษณาผ่านสื่อ Outdoor ขยายตัวต่อเนื่อง โดย PLANB รวมทั้งขยายธุรกิจด้วยการซื้อกิจการ ร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่น และเพิ่มช่องทางในการนำเสนอสื่อ ล่าสุด ใช้เงิน 20 ล้านบาท ซื้อกิจการ "เดอะวันพลัส" เจ้าพ่อสื่อโฆษณาดิจิตอลใน 6 สนามบินของ AOT และ SET ให้ PLANB บรรจุเข้าคำนวณ SET100 มีผล 1 ม.ค.59 สำหรับงบฯปี 58 ผลสำรวจคาดจะมีกำไร 422 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวจากปีก่อน
  • EPG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 15 บาท วานนี้ราคาหุ้นพุ่งทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดฯ แต่ยังคิดเป็น Forward PE ปี 2016 ที่ 20 เท่า ไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับกำไรที่คาดว่าจะโตเฉลี่ยกว่า 30% ต่อปีในช่วง 3 ปีนี้ อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 9% ในอดีตเป็น 15-16% ในปัจจุบัน ROE ยกระดับจาก 7-8% เป็น 16-17% โครงสร้างทางการเงินแข็งแรง มีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.4 เท่า ล่าสุด EPG เป็นหุ้นที่ถูกนำเข้าไปคำนวณใน SET100 งวด ม.ค. – ธ.ค. 2016 สำหรับกำไร 3Q16 (ต.ค.-ธ.ค. 2015) เชื่อว่าจะเดินหน้าทำ new high ต่อจากทั้งธุรกิจหลักที่ดีต่อเนื่อง และอานิสงส์ที่ได้จากเงินบาทอ่อนและราคาน้ำมันถูกลง
  • ASEFA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 7 บาท การเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า (2015-17) ที่ 17% กำไรที่โตสูงมาจากการเร่งผลักดันการลงทุนต่างๆของภาครัฐ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ด้านโทรคมนาคม โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมทั้งการเติบโตของธุรกิจ Data Center สำหรับ Backlog สิ้น 3Q15 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ 40% ใน 4Q15 ที่เหลือรับรู้ใน 1H16 และมีงานที่อยู่ระหว่างเจรจาและเข้าร่วมประมูลอีก 2.5-3 พันล้านบาท ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้งานเพราะเป็นผู้นำในตลาดสวิทซ์บอร์ดไฟฟ้า มีประสบการณ์ยาวนาน และมีความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรทางการค้าทั้งผู้จัดจำหน่ายและลูกค้าของบริษัท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ