รอบที่ 164 ใบที่ 1 มีผู้เสนอราคา 1 ราย ราคามาที่ 64,706 ล้านบาท ใบที่ 2 มีผู้เสนอราคา 1 ราย ราคามาที่ 66,960 ล้านบาท รวมราคา 131,666 ล้านบาท
รอบที่ 165 ใบที่ 1 มีผู้เสนอคราคา 1 ราย ราคามาที่ 65,028 ล้านบาท ใบที่ 2 มีผู้เสนอราคา 2 ราย ราคามาที่ 67,282 ล้านบาท รวมราคา 132,310 ล้านบาท
ถัดมาชั่วโมงที่ 57 รอบที่ 166 ใบที่ 1 มีผู้เสนอราคา 1 ราย ราคามาที่ 65,350 ล้านบาท ใบที่ 2 มีผู้เสนอราคา 2 ราย ราคามาที่ 67,604 ล้านบาท รวม 132,954 ล้านบาท
รอบที่ 167 ใบที่ 1 มีผู้เสนอราคา 1 ราย ราคามาที่ 65,672 ล้านบาท ใบที่ 2 มีผู้เสนอราคา 2 ราย ราคามาที่ 67,926 ล้านบาท รวม 133,598 ล้านบาท
รอบที่ 168 ใบที่ 1 มีผู้เสนอราคา 1 ราย ราคามาที่ 65,994 ล้านบาท ใบที่ 2 มีผู้เสนอราคา 2 ราย ราคามาที่ 68,248 ล้านบาท รวม 134,242 ล้านบาท
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หากการประมูลดังกล่าวยังคงเดินหน้าเคาะราคากันอย่างต่อเนื่องทุกรอบ คาดว่าเวลาไม่เกิน 13.00 น. ราคาจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 ล้านบาทต่อใบ และในเวลา 21.00 น. ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 77,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการประมูลกันต่อ ซึ่งที่ผ่านมายังมีผู้ประมูลเคาะราคาแข่งกันทั้งหมด 4 ราย และไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์มีผู้เข้าประมูลบางรายขอออกจากห้องประมูล โดยมีผู้บริหารของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด จำนวน 1 ราย และผู้บริหารชาวต่างชาติของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด จำนวน 1 ราย เนื่องด้วยติดภารกิจไปต่างประเทศ
นายฐากร กล่าวว่า จากการประมูลมาเป็นระยะต่อเนื่องจนเข้าวันที่ 4 แล้ว น่าจะทำให้ประเทศไทยทำลายสถิติสูงสุดโลกของการประมูลที่มีระยะเวลายาวนานติดต่อกัน โดยมีการเริ่มประมูลในวันที่ 15 ธ.ค.58 จนถึงปัจจุบัน ส่วนการทำสถิติสูงสุดของโลกในด้านมีรายได้นำส่งรัฐนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาข้อมูล
"คิดว่าผู้ประมูลเองเท่าที่ดูหน้าตา ก็ยังสดชื่นกันอยู่ และหลายท่านก็ได้มีการทำบุญ และอธิษฐานขอพรตามศาสนาพุทธ ขณะที่การเคาะราคาของทั้ง 4 ราย เชื่อว่ายังไม่มีผลขาดทุนอะไร แต่กำไรอาจจะลดลงจากต้นทุนการดำเนินงาน" นายฐากร กล่าว