สำหรับปีนี้ประเมินแนวโน้มดัชนีไม่ต่ำกว่า 1,300 จุด เนื่องจากหากการประมูลคลื่นความถี่ 900MHz เสร็จสิ้น จะเริ่มมีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มสื่อสารมากขึ้น จากการประมาณการเบื้องต้นคาดว่าอย่างช้าที่สุดการประมูลคลื่นความถี่ 900MHz จะเสร็จสิ้นภายในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.58
ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1,500-1,550 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก หุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ 3 กลุ่ม ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยประเมินราคาน้ำมันดิบตลาดโลกไว้ที่ 47-48 ดอลลาร์/บาร์เรล จึงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ รวมถึงหุ้นกลุ่มสื่อสาร ที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวขึ้น หลังจากการประมูล คลื่นความถี่ 900MHzเสร็จสิ้นพร้อมใช้งาน จึงทำให้ความเชื่อมันของนักลงทุนกลับมาลงทุนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มองว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)จะปรับตัวดีขึ้น จากการบริหารจัดการของธนาคาร จึงอาจมีเม็ดเงินจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังคาดว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยเฉพาะเมกะโปรเจ็คต์จะช่วยให้มีการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวตามไปด้วยเช่นกัน
ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจปีหน้า นายปริญญ์ มองว่ายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่อาจต้องใช้มาตรการทางการคลังและเงินมาช่วยหนุนเพื่อไม่ให้ GDP ลดต่ำกว่า 6.5% รวมถึงการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อควบคุมเงินไหลออกนอกประเทศ ซึ่งจากนโยบายเหล่านี้อาจส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัวได้อีก 3-5% เมื่อเที่ยบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเศรษฐกิจไทยมองว่าหากการลงทุนภาครัฐเกิดขึ้นได้ก็จะส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนกลับมา ประกอบกับต่างชาติรอดูตัวเลขเศรษฐกิจหลายๆด้านว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ โดยคาดว่าเม็ดเงินจะไหลกลับมาในเดือน มี.ค.อย่างชัดเจน