ผลกระทบต่อเบื้องต้น ADVANC อาจต้องลงทุน Capex เพิ่มขึ้น (คลื่นน้อย) ใช้ค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้า
DTAC มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการทำธุรกิจหลังปี 2018 เมื่อสัญญาสัมปทานหมดอายุ เหลือคลื่นเดียวคือ 2.1GHz ซึ่งหมายถึงส่วนแบ่งตลาดรายได้มีโอกาสลดลงสูง หากไม่มีการประมูล 1800 MHz รอบใหม่หลังปี 2015 แม้ว่า DTAC จะสามารถแข่งขันได้ในช่วงปี 2016-18 จากคลื่นบนสัญญาสัมปทาน แต่มีต้นทุนสูงกว่าคู่แข่ง
TRUE คาดว่าต้องเพิ่มทุนแน่นอน และต้องเพิ่ม Capex และค่าใช้จ่ายการตลาด ขณะที่การแข่งขันมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น กดดันรายได้ ถึงแม้มีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาดรายได้จาก ADVANC และ DTAC ซึ่งเราคาดว่ามีแนวโน้มกลับมารายงานขาดทุนในช่วง 2016-18 และไม่สามารถจ่ายเงินปันผล
JAS เราคาดว่าจะขาดทุนทุกปี และไม่น่ามีมูลค่าเหลือจากการลงทุนในการได้คลื่นมาที่ 7 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มขาดทุนทุกปี นอกจากนี้ เรามองว่าการยอมซื้อคลื่นที่ราคาแพงกว่าที่ ADVANC ยอมรับได้ สะท้อนความไม่สมเหตุสมผลของ JAS และน่าจะส่งผลลบต่อกลุ่มสื่อสารโดยรวม
โดยภาพรวม คาดว่าราคาหุ้นน่าจะปรับลดลงทุกตัวในวันจันทร์ แต่เรายังชอบ ADVANC ที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากคาดว่าจะยังจ่ายเงินปันผลได้ แต่ต้องปรับลดกำไรสุทธิลง ซึ่งหมายถึงราคาหุ้นจะลดลงมาเพื่อให้ได้ Yield 5-6% (ขณะที่ DTAC, TRUE, JAS ไม่น่าสนใจลงทุนเลย)