ADVANC พุ่ง 6.75% หลังร่วงแรงสะท้อนกังวลผลกระทบเรื่อง 4G มากเกินไป

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 22, 2015 10:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น ADVANC ราคาพุ่งขึ้น 6.75% มาอยู่ที่ 166 บาท เพิ่มขึ้น 10.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,349.37 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 162 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 166 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 161 บาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) เนื่องจาก Market Overreact กับผลการประมูลมากเกินไปจากราคาที่มีปรับตัวลงแรงของ ADVANC เมื่อวานนี้ สะท้อนให้เห็นถึงตลาดกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทมากเกินไป โดยเชื่อว่าบริษัทได้มีการคิด Scenario ไว้อย่างรอบคอบในการตัดสินใจไม่เอาใบอนุญาต 900 MHz ถ้านับจากราคาก่อนการประมูล 1800 MHz ราคาของหุ้นอยู่ที่ 230 ลงมาเหลือ 155 บาท ลงไปมากกว่า 75 บาท

ซึ่งตลาดกังวลนั้น หมายความว่า ADVANC จะต้องเหลือผู้ใช้งานเพียง 34 ล้านเลขหมาย จาก 38 ล้านเลขหมาย และ APRU เฉลี่ยต้องลดลงประมาณ 30 บาท จากปัจจุบัน ARPU อยู่ที่ 220 บาท ให้กรณีเลวร้ายสุดเพียงบริษัทคงผู้ใช้งาน 38 ล้านเลขหมาย และไม่สามารถเพิ่ม ARPU ผลกระทบต่อราคาหุ้นเพียง 21.59 บาท เท่านั้น เบื้องต้น ราคาเป้าหมายเดิมยังไม่รวมผลการประมูล 284 บาท คาดต้นทุนของต้นทุนใบอนุญาตกรณี Worst Case กระทบต่อราคาเป้าหมาย 21.60 บาท เหลือราคาเป้าหมาย 262.4 บาท Under review Forecast

สรุป Conference call ผู้บริการชี้แจงเรื่องของประมูลที่ผ่านมา ว่า ADVANC ได้พิจารณาในทุกด้านของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน 2G Handset ที่มีกว่า 11 ล้านเลขหมาย การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่อย่าง JAS และ CAPEX ในการลงทุน ซึ่งราคาไม่ควรเกิน 75,000 ล้านบาท และการที่ไม่เข้ามา Bid ใน Lot 2 เนื่องจาก Lot 2 มี Guard band ทำให้การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ

ในส่วนเรื่องปัญหาคนที่ยังใช้งานในระบบ 2G ประมาณ 1 ล้านเลขหมาย และคนที่ใช้งาน 3G ที่ยังเป็นมือถือ 2G บริษัทอีกประมาณ 11 ล้านเลขหมาย บริษัทจะใช้กลยุทธ์ในการแจกมือถือ 3G ฟรี ในราคาเครื่องอยู่ที่ 690 บาท ให้กับผู้ใช้งานดังกล่าว รวมแล้วต้นทุนในการย้ายผู้ใช้งานประมาณ 7 พันล้านบาท แต่บริษัทได้ขอยื่นให้ กสทช ขยายระยะเวลาในการ Remedy period ไปอีกประมาณ 90 วัน เนื่องจาก TRUE และ JAS ยังไม่สามารถรองรับลูกค้าดังกล่าวได้

ส่วนปัญหาเรื่องคลื่นไม่เพียงพอต่อความต้องการนั้น ทางผู้บริหารได้มีการชี้แจงว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับทางทีโอที ในการที่บริษัทจะใช้คลื่น 2100 MHz จำนวน 15 MHz มาให้บริการ รวมถึง Tower และ Network ด้วย และบริษัทได้มีการ Soft Launch ในการให้บริการ 4G ในตามหัวเมืองใหญ่ และในกรุงเทพฯบ้างแล้ว คาดว่าการ Roll out 4G Network น่าจะเห็นอย่างชัดเจนได้ภายใน 5 เดือน และด้วย Technology และ Engineering Expertise ในการวางเครือข่าย 3G ที่มีคุณภาพสูง ทำให้การ Roll out 4G Network ครอบคลุมได้อย่างรวดเร็ว บริษัทไม่ได้เน้นเฉพาะความเร็วในการให้บริการ 4Gเท่านั้น บริษัทยังเน้น Network Quality ความเร็วในการใช้งานที่มีเถียรภาพ ครอบคลุม และต่อเนื่อง เป็นหัวใจสำคัญที่บริษัทให้บริการเสมอมา

เรื่อง Price war บริษัทไม่ได้เป็นกังวล บริษัทได้ยกกรณีตัวอย่าง MVNO ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ที่กลัวว่าจะเกิดการแข่งขันในด้านราคาเกิดขึ้น แต่เวลาพิสูจน์ให้เห็นถึงการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะ Network Quality นับว่าเป็นหัวใจของการให้บริการ มิใช่เรื่องราคา และความเร็วเพียงเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ