วานนี้(21 ธ.ค.)หุ้น TRUE ปิดที่ 6.60 บาท ลดลง 0.65 บาท(-8.97%)
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"หลีกเลี่ยง"หุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) ราคาประมูลสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ผลการดำเนินงานที่ประสบปัญหาขาดทุน Downside กรณีแย่สุดของราคาหุ้นลดลงจากราคาเป้าหมายเดิมที่ 10.34 บาท เหลือ 4.77 บาท (ยังอยู่ในระหว่างการจัดทำประมาณการใหม่)
ทั้งนี้ ยังมองว่า TRUE ยังมีความเสี่ยงในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างสูงมาก ซึ่งถ้าภายใน 3-5 ปี TRUE ยังไม่สามารถขยายผู้ใช้งาน และเพิ่ม ARPU ได้จะเป็นความเสี่ยงใหญ่ให้กับบริษัท รวมถึงภาระหนี้ที่จะสูงขึ้นด้วย จากเป้าที่บริษัทตั้งในการมีส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 1 ใน 3 นั้น สอดคล้องกับ Scenario ที่ได้ทำไว้ ในการลงทุนครั้งนี้จะเริ่มสร้างมูลค่าให้กับบริษัทได้ บริษัทจะต้องเพิ่มจำนวน Subscriber ให้ได้ถึง 24 ล้านเลขหมายจากปัจจุบันที่ 18 ล้านเลขหมาย และต้องเพิ่ม APRU อีกประมาณ 20 บาท จากปัจจุบันที่ 185 บาท
แต่เมื่อดูถึง Downside ที่จะเกิดขึ้นกับราคาหุ้นนั้นในกรณีเลวร้ายสุดที่บริษัทไม่สามารถเพิ่มทั้งผู้ใช้งานและ ARPU ได้เลยจะทำให้มูลค่าหุ้นลดลงไป 5.57 บาท จึงมองว่ายังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ผู้บริหารมั่นใจกว่าการได้คลื่น 900 MHz จะทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในเรื่องของ Speed 4G LTE Advance ที่เหนือกว่าคู่แข่งทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยี จะทำให้ Speed สูงกว่า 4G ปกติถึง 3 เท่า วางแผนใช้งานคลื่นความถี่ดังนี้
คลื่น 900 MHz (7.5 MHz), 2100 MHz (15MHz) และ 1800 (15 MHz) มาทำ 4G
คลื่น 850 MHz (15 MHz) มาทำ 3G
คลื่น 900 MHz (2.5 MHz) มาทำ 2G
บริษัทมองโอกาสในตลาด 2G ที่ยังมีผู้ใช้มือถือ 2G อยู่อีกเกือบ 15 ล้านเลขหมาย ซึ่งประมาณ 11 ล้านเลขหมายเป็นของ ADVANC เดิม ตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นอันดับ 2 ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเน้นในกลุ่ม Pre-Paid เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสั้ดส่วนเพียง 12% เท่านั้นในตลาดเติมเงิน
ในส่วนของราคาประมูล 900 MHz ที่สูงถึง 75,000 บาทนั้นบริษัทชี้แจงว่าด้วยที่ 900 MHz เป็นคลื่นยาวจะช่วยให้บริษัทลด Capex ไปได้ถึง 45,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบที่ต้องใช้คลื่นสั้นเช่น 1800 หรือ 2100 ในเรื่องของแหล่งเงินทุนนั้น บริษัทจะใช้แหล่งเงินกู้เป็นหลัง Target D/E ที่ไม่เกิน 2 เท่า แต่อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับมติของบอร์ดและผู้ถือหุ้นในการที่จะเพิ่มทุนในอนาคต เพราะ Term ในการจ่ายเงินใบอนุญาตในช่วงต้นยังมีจำนวนจ่ายที่น้อย รวมถึงการลงทุน CAPEX ที่จะอยู่ประมาณ 56,000 ล้านบาทในการทำ 4G ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ก็ได้การ Finance จาก Vender ด้วย และถ้าบริษัทสามารถมีส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 1 ใน 3 ได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า กระเสเงินสดที่เข้ามาเพียงพอต่อค่าใบอนุญาตที่ต้องจ่ายในปีที่ 4