LHHOTEL เข้าเทรด SET วันนี้มั่นใจศักยภาพทำเลรร.หนุนอัตราผลตอบแทนที่ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 22, 2015 13:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เปิดเผยว่า หน่วยลงทุนของทรัสต์ LHHHOTEL เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)เป็นวันแรกในวันที่ 22 ธันวาคม 2558 หลังจากเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ก่อนหน้านี้ในราคาหน่วยละ 10 บาท โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจจองซื้อเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทรัสต์ LHHOTEL มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของโครงการโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ในย่านอโศก-สุขุมวิท เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี ซึ่งโรงแรมดังกล่าวอยู่ติดจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนของรถไฟฟ้า BTS และ MRT อโศก-สุขุมวิท ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ติดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 แหล่งรวมร้านอาหาร แฟชั่น โรงภาพยนตร์และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำมากกว่า 500 ร้านค้า จึงทำให้ทำเลดังกล่าวเป็นศูนย์รวมภาคธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว บันเทิงและไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ

"เรามีความเชื่อมั่นว่า หลังจากทรัสต์ LHHOTEL เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้ง การให้บริการของโรงแรมที่ได้มาตรฐานระดับสากล และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำและอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ทำผลการดำเนินงานโดดเด่นทั้งอัตราการเข้าพักเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักและรายได้จากค่าห้องพักที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นและสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุน"นางจันทนา กล่าว

นางสาวกนกวลี วิริยประไพกิจ กรรมการ บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย กล่าวว่า โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 นับเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ โดยเป็นอาคารสูง 28 ชั้นและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 47,298 ตารางเมตร ซึ่งมีจุดเด่นด้านห้องพักที่ได้รับการออกแบบและตกแต่งให้รองรับได้ทั้งกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โดยนับจากเปิดให้บริการมากว่า 3 ปี หรือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นมา โรงแรมมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2555 - 2557 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 และมีอัตราค่าเช่าห้องพักในปี 2555 - พ.ค.2558 เติบโตเฉลี่ยปีละร้อยละ 13

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของโรงแรมในอนาคต มองว่าจากปัจจัยเกื้อหนุนของภาพรวมธุรกิจโรงแรมของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี จากปัจจัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากฝั่งเอเชียทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรม ยังนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ก่อนใช้จุดเชื่อมต่อเดินทางไปท่องเที่ยวภูมิภาคต่างๆ ของไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ