ทั้งนี้ บริษัทมีความต้องการที่จะจ่ายปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้นด้วย หลังจากที่คาดว่าจะมีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างก้อนสุดท้ายมูลหนี้ราว 1,600 ล้านบาท ที่จะเจรจาปรับลดหนี้เหลือครึ่งหนึ่ง ถ้าสำเร็จเงินจะเข้ามาราวไตรมาส 1/59 โดยกำไรจากการตัดหนี้ก้อนนี้จะมากกว่าก้อนแรกที่ 200-300 ล้านบาทซึ่งจะเข้ามาปลายปีนี้ ถ้าบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ในไตรมาส 1/59 ก็คาดว่าจะจ่ายได้กลางปี 59 หลังจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 58 แล้ว
"ใจจริงอยากจะพิจารณาจ่ายปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น หลังได้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ก้อนนี้มาซึ่งคาดว่าจะ book กำไรในไตรมาส 1/59 ไม่น้อยกว่า 200-300 ล้านบาท ตอนนี้ไม่มีอะไรฉุดดาราเทวีอีกแล้ว เหลือหนี้ก้อนสุดท้าย 1,600 ล้านบาท อยากจะเจรจาปรับลดหนี้ให้เหลือครึ่งหนึ่ง โดยเบื้องต้นอาจจะจ่ายเป็นที่ดินหรือเอาที่ดินไปแฮร์คัต ซึ่งดาราเทวีมีที่ดินเปล่ายังไม่พัฒนาอยู่หลังโรงแรมอีก 30-80 กว่าไร่ ราคาไร่ละ 20 กว่าล้านบาท ซึ่งถ้าแฮร์คัตได้ก็จะมีกำไร 500-600 ล้านบาท ทุกอย่างก็จะเดินไปได้ด้วยดี"นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อีก 2 รายที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการจะร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการในที่ดินเปล่า 30-80 กว่าไร่ดังกล่าว เพราะพื้นที่ข้างหลังติดดอยสุเทพนับว่าเป็นพื้นที่ดีมาก ก็อาจจะพัฒนาเป็นโรงแรม เรสสิเด้นทฺ โดยบริษัทจะไม่ลงทุนในรูปตัวเงินแต่ให้ใช้ที่ดินที่มีอยู่เข้าร่วมทุน ซึ่งคาดว่าจะกระบวนการแลกที่ดิน การร่วมทุน จะสรุปได้ในไตรมาส 1/59 แต่หากบริษัทต้องการได้เงินก็จะขายที่ดิน ทั้งนี้ หากแผนการปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปตามคาดการณ์ ก็จะทำให้ดาราเทวีพลิกเป็นกำไรในปี 59
"ถ้าโรงแรมแก้ปัญหาหนี้ได้ทั้งหมด จะทำให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA)เพิ่ม 200-300 ล้านบาท/ปี หลังจากนั้นมีแผนจะขายเป็น member ถ้าได้ 1,000-2,000 คนก็ดีแล้ว"นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับปี 59 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรมากกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากกำไรธุรกิจพลังงาน 1,000 ล้านบาท หากได้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามแผนที่ 100 เมกะวัตต์ และมีกำไรจากธุรกิจกลุ่มโรงแรมดาราเทวี 100-200 ล้านบาท รวมถึงจะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้อีกราว 200-300 ล้านบาทด้วย