ทั้งนี้ คาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะให้อัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ระดับ 7.8% และคาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 50 ล้านบาท/ปี ซึ่งการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจพลังงานเพื่อเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงของรายได้ ประกอบกับธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้ามีรายได้สม่ำเสมอมั่นคงและมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 15 ปี
สำหรับเงินทุนในการลงทุนครั้งนี้จำนวน 400 ล้านบาท จะมาจากเงินกู้สถาบันการเงินและเงินทุนหมุนเวียน สาเหตุหลักในการลงทุนเพื่อเป็นช่องทางในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าใต้พิภพ (GEOTHERMAL) นับเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่เข้าไปลงทุนพลังงานประเภทนี้ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพเพราะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูง ซึ่งโครงการผลิตไฟฟ้าใต้พิภพ (GEOTHERMAL) ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างดีเยี่ยม ขณะที่การลงทุนด้านพลังงานในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีมากในการลงทุนด้านพลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ที่มีการเติบโตสูงในอนาคต
“เราคาดว่าจะต่อยอดในธุรกิจ สร้างรายได้อย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ ประเมินรายได้ปีละ 50 ล้านบาท และเงินลงทุน 400 ล้านบาท เรามีเพียงพอและพร้อมสำหรับการลงทุนครั้งนี้" นายกิติพัฒน์ กล่าว