เช้านี้ หนังสือพิมพ์ระบุว่า นายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย(SIM) มีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) มือถือจาก AIS มีลูกค้าที่ใช้คลื่นนี้ของบริษัทอยู่ราว 10 ล้านราย ซึ่งเป็นผู้ใช้โทรศัพท์รุ่นเก่าที่ไม่ใช่ Smart Phone ดังนั้น AIS จึงต้องหาทางรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้ได้ และรองรับผู้ใช้เก่านี้ต่อไปแล้วค่อยๆ เปลี่ยนให้ไปใช้ระบบที่บริษัทมีอยู่คือ 1800, 2100 Mhz ให้ทันใน 90 วันไม่อย่างนั้นซิมจะดับ
ทั้งนี้ การแก้ปัญหาที่ดีสุดคือหาโทรศัพท์ที่รองรับระบบ 900 MHz นี้ และรองรับการปรับเข้าระบบ 1800, 2100 MHz ด้วย ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นธรรมดา ดังนั้น ต้องสั่งซื้อโดยเร่งด่วน และให้ลูกค้ากลุ่มนี้ทยอยมาเปลี่ยนโทรศัพท์ไป โดย AIS แจกให้ราคาเครื่องราว 750 บาท รวม 10 ล้านเครื่อง มูลค่า 7,500 ล้านบาท
ดังนั้น เจ้าใหญ่สุดที่มีความพร้อมในการขายโทรศัพท์ล็อตใหญ่ก็คือ SIM จึงประเมินได้ว่า ถ้าดีลนี้เกิด ทาง SIM จะต้องจัดส่งเครื่องให้ AIS ครบภายใน 90 วัน ซึ่งหมายความว่ายอดขายของ SIM ในปี 2559 มีรองรับอยู่แล้ว 7,500 ล้านบาท หากประเมินอัตรากำไรสุทธิสัก 10% ก็จะมีกำไรราว 750 บาท จะมี EPS ที่ 0.17 บาท ถ้าให้ P/E 10 เท่า ราคาหุ้น SIM จะปรับขึ้นไปที่ 1.70 บาท ซึ่งเป็นฐานในปี 2559