ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นสามัญคิดเป็นสัดส่วน 100% จากผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท เก้าก้อง ปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ตามแนวท่อก๊าซ ตั้งอยู่ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง โดย SCN จะใช้งบลงทุนเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ไม่เกิน 276 ล้านบาท เนื่องจากมองเห็นโอกาสลงทุนในธุรกิจสถานีก๊าซ NGV ในจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในโซนที่มีความต้องการใช้ก๊าซ NGV ในภาคอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งภายหลังการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากสถานีก๊าซ NGV ดังกล่าวทันที
สำหรับการเข้าซื้อสถานีก๊าซ NGV จาก เก้าก้อง ปิโตรเลียม ในครั้งนี้ ถือเป็นสถานีก๊าซ NGV แห่งที่ 2 ของปีนี้ ที่ SCN ได้เข้าซื้อกิจการ โดยสถานีดังกล่าวมียอดขายก๊าซ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 70,000 กิโลกรัม ส่งผลให้ยอดขายก๊าซ NGV จากธุรกิจสถานีก๊าซโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 125,000 กิโลกรัมต่อวัน จากเดิมที่มียอดขายจากสถานีก๊าซ NGV ที่สามโคกจำนวน 55,000 กิโลกรัมต่อวัน และจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้าหลังจากเปิดให้บริการสถานีก๊าซ NGV ที่ซื้อมาจาก BPA Intertrade ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2559
นายฤทธี กล่าวว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อสถานีก๊าซ NGV เพิ่มอีก 1 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ทำให้สามารถซื้อกิจการสถานีก๊าซ NGV ได้ครบตามเป้าหมายที่ได้แจ้งข้อมูลแก่นักลงทุนได้รับทราบ ส่งผลให้ภาย SCN มีสถานีก๊าซ NGV รวมทั้งสิ้น 7 แห่ง แบ่งเป็น ที่บริษัทฯ ดำเนินการเอง 4 แห่ง และเป็นความร่วมมือกับบมจ. ซัสโก้ (SUSCO) อีก 3 แห่ง
“ราคาน้ำมันที่ลดลงไม่ได้ส่งผลต่อยอดขายก๊าซธรรมชาติในสถานีบริการก๊าซ NGV เนื่องจากราคาก๊าซ NGV ราคา 13.50 บาท ยังต่ำกว่าราคาน้ำมัน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมขนส่งยังใช้บริการเติมก๊าซ NGV เช่นเดิม เราจึงขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการสถานีก๊าซ NGV เพิ่มเติม เพราะเป็นธุรกิจที่มีความคุ้มค่ากับการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน โดยยอดขาย NGV จากสถานีบริการก๊าซธรรมชาติรวมของกลุ่ม SCN จะทำรายได้รวมมากกกว่า 600 ล้านบาท ในปี 2559 เพิ่มขึ้นจากเดิมมียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท และช่วยผลักดันผลกำไรโดยรวมให้เติบโตได้ดีขึ้นอีกด้วย" นายฤทธี กล่าว