นายพิชญ์ กล่าวว่า ในด้านการเงิน JASMBB ได้รับการสนับสนุนทางการเงินทั้งโครงการจากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ เช่น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รวมทั้ง JASMBB สามารถเข้าตลาดหุ้นได้ เพราะมีระเบียบกำหนดให้สาธารณูปโภคพื้นฐานที่เกี่ยวกับระบบโทรคมนาคมเข้าระดมทุนได้ทันที
ขณะที่ด้านอุปกรณ์โครงข่ายได้รับการสนับสนุนจากบริษัท หัวเหว่ย ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์หลักของโครงข่าย ในลักษณะ Supplier Credit ที่ผ่อนชำระได้
นอกจากนี้ JASMBB ได้กำหนดจุดของสถานีฐานทั้งประเทศและเริ่มดำเนินการติดตั้งไปบ้างแล้ว อีกทั้งจะมีการเช่าจากรัฐวิสาหกิจบางส่วนด้วย และมีลูกค้าจำหนวนหนึ่งได้แสดงความจำนงที่จะใช้และเริ่มจองบ้างแล้ว โดยมั่นใจว่าในปีแรกของการให้บริการจะมีลูกค้าถึง 2 ล้านราย และปีที่ 3 จะเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 5 ล้านราย
นายพิชญ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900MHz งวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท พร้อมวางแบงก์การันตี ซึ่งมีธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็นผู้สนับสนุนเพียงรายเดียวในช่วงต้นปี 59 ซึ่งรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นค่าใบอนุญาต 7.56 หมื่นล้านบาท และเงินลงทุนอุปกรณ์และโครงข่าย 2.5 หมื่นล้านบาท
หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้วจะเริ่มให้บริการกับลูกค้าทันที พร้อมเปิดตัวแบรนด์สินค้าและแคมเปญ โดยวางงบการตลาดปี 59 ไว้หลัก 100 ล้านบาท ซึ่งในปีแรกบริษัทตั้งเป้าจะมีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในธุรกิจมือถือราว 2 ล้านราย และภายใน 3 ปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านราย อีกทั้งคาดจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในปีแรก จากความเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะให้ความสนใจในสิ่งใหม่ๆ ประกอบกับ ยังมีลูกค้าของเอไอเอสที่ใช้งานในระบบ 2G ที่มีอยู่ราว 10 ล้านราย โดยบริษัทมีความสามารถที่จะรองรับลูกค้าเหล่านี้ได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการร่วมมือทางธุรกิจ หรือจับมือเป็นพันธมิตรกับเอไอเอสอย่างแน่นอน
สำหรับสถานีฐานในปีแรกตั้งเป้าจะมีทั้งสิ้น 15,000 สถานีฐาน โดยจะมาจากการเช่าสถานีฐานของรัฐวิสาหกิจกว่า 10,000 สถานีฐาน เพื่อความรวดเร็วของการให้บริการ และจะลงทุนสร้างเองอีก 5,000 สถานีฐาน ซึ่งมองว่าบริษัทมีความสามารถที่จะก่อสร้างสถานีฐานได้ 1,000 สถานีฐาน/เดือน อย่างไรก็ตามจะสามารถครอบคลุมการให้บริการดังกล่าว 90% ของประชากรทั้งหมด
"ความพร้อมการให้บริการช่วงแรก เรายืนยันจะทำให้ดีที่สุด โดยจะเริ่มที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ และค่อยทยอยออกไป ส่วนจุดให้บริการก็จะเป็นจุดเดียวกันกับ 3BB เราก็จะมีการเพิ่มพนักงาน คอลเซนเตอร์ เพื่อรองรับการให้บริการ โดยเรายังคงเชื่อว่าลูกค้ายังต้องการใช้อะไรที่ใหม่ และลูกค้าที่ใช้ 2G ที่จะเปลี่ยนไปใช้ 3G ,4G น่าจะเป็นลูกค้าที่มีความพร้อม หรือมีความสามารถในการจ่าย ซึ่งในปีแรกจะเห็นการออกแคมเปญ ที่ถูกกว่า ของเราออกมาอย่างแน่นอน"นายพิชญ์ กล่าว
นายพิชญ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีนักลงทุนจากต่างประเทศหลายรายให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนใน JASMBB ซึ่งบริษัทจะคัดเลือกพันธมิตรเพียงรายเดียวเท่านั้น คาดจะสามารถเปิดตัวได้ภายในไตรมาส 1/59 และสัดส่วนการถือหุ้นจะต้องไม่เกิน 25% ทำให้บริษัทฯยังเป็นผู้ถือหุ้นหลักอยู่ และน่าจะถือหุ้นไม่น้อยกว่า 15% ขณะที่หากไม่มีพันธมิตรเข้ามาร่วมบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 75%
ส่วนการนำบริษัท JASMBB เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปี 59 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บล.บัวหลวง อย่างไรก็ตาม จะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 350 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท ก่อนเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)
ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเกาหลีใต้รายหนึ่งอยู่ในข่ายผู้ที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ JAS ซึ่งได้มีการเจรจากันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้